กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ย้ำสถานบริการการแพทย์ แผนไทย คลินิกกัญชาการแพทย์พื้นบ้านไทย ต้องมีมาตรฐานความ เพื่อประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ มั่นใจ ปลอดภัยจากไวรัสโควิด 19 ระลอกใหม่
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตามที่ กระทรวงสาธารณสุข ให้สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ ทั่วประเทศ เน้นมาตรการป้องกัน เฝ้าระวังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 ล่าสุด ได้มอบหมายให้ผู้บริหาร และผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่สถานบริการการแพทย์แผนไทยและคลินิกกัญชาทางการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย ตรวจและให้คำแนะนำแนวทางปฏิบัติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และผู้รับบริการ
สำหรับแนวทางการในการป้องกัน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีมาตรการที่ดำเนินการ มาโดยตลอด จัดให้มีจุดคัดกรอง อุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิ แอลกอฮอลล์ 70% คัดกรองและวัดอุณหภูมิผู้ปฏิบัติงานทุกราย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 – 2 เมตร หากผู้ให้บริการและผู้รับบริการมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.3 C หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น สัมผัสผู้ติดเชื้อ การเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือมีโรคประจำตัว ให้ส่งต่อรับการดูแลทางการแพทย์แผนปัจจุบันทันที
สถานบริการ บุคลากรต้องสวมหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ป้องกันใบหน้า (Face Shield) และถุงมือ ตลอดเวลา ที่ให้บริการ ลูกประคบสมุนไพรให้ใช้เฉพาะเป็นรายบุคคล และนึ่งลูกประคบสมุนไพร ไม่น้อยกว่า 30 นาที ก่อนนำไปประคบ ผ้ารองลูกประคบ จะต้องผ่านการฆ่าเชื้อทุกผืน จัดให้มีเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนของผู้มารับบริการ โดยอยู่ในถุงที่แยกแต่ละชุด และผ่านการอบฆ่าเชื้อทุกตัว ในส่วนอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย ให้ทำความสะอาดอุปกรณ์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ 70% และที่สำคัญต้องทำความสะอาด เตียงนวด หมอน เบาะยาง และเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าขวางเตียง ก่อนและหลังให้บริการทุกครั้ง
สำหรับประชาชนที่เข้ารับบริการสถานบริการการแพทย์แผนไทยฯ และคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยฯ ควรจองล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการผ่านระบบ ออนไลน์ โทรศัพท์ แอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวกและลดความแออัด ในสถานพยาบาล หรือในกรณีไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า มีสถานที่สำหรับผู้รับบริการกรอกข้อมูลโดยการเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร และมีที่กั้นระหว่างบุคคล มีการบันทึกเข้า-ออก ด้วยแอปพลิเคชัน ไทยชนะ และมีการบันทึกรายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ วันที่และเวลาของผู้มารับบริการทุกราย เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้ในกรณีที่ต้องมีการสอบสวนโรค แต่ทั้งนี้ในช่วงระยะเวลานี้ หากท่านใดรู้ตัวว่าเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง มีการสัมผัสใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวที่มีการติดเชื้อ หรือพบว่าตนเองมีไข้ มีอาการป่วยทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ หรือสงสัยว่าเข้าข่ายติดเชื้อโรคโควิด 19 ขอความร่วมมืองดใช้บริการเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และผู้ป่วยรายอื่นๆ หรือหากมีอาการผิดปกติต้องรีบแจ้ง ที่สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อพบแพทย์วินิจฉัยหาสาเหตุของโรคโควิด 19 ต่อไป
—————————–