สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จเยี่ยมชมการดำเนินงานการให้บริการด้านเอชไอวีของเรือนจำกลางอุดรธานี ตามโครงการคืนคนสุขภาพดีสู่สังคม

วันที่ 21 ธันวาคม 2563 ณ เรือนจำกลางอุดรธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติในการป้องกันเอชไอวีในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ทรงเยี่ยมชมการดำเนินงานการให้บริการด้านเอชไอวีของเรือนจำกลางอุดรธานี โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดอุดรธานี ร่วมเฝ้ารับเสด็จ

นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข กรมราชทัณฑ์ และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ลงนามความร่วมมือพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขให้ผู้ต้องขังเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพและบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ดำเนินโครงการคืนคนสุขภาพดีสู่สังคม เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีกรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในโอกาสที่ทรงดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีของโครงการ โรคเอดส์แห่งสหประชาชาติในการป้องกันเอชไอวีในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยมีการจัดกิจกรรม เช่น การคัดกรองเชื้อเอชไอวี ซิฟิลิส และไวรัสตับอักเสบซี ในกลุ่มผู้ต้องขังก่อนพ้นโทษปล่อยตัวของเรือนจำ จำนวน 40 แห่ง ทำให้ผู้ต้องขังได้รับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การดำเนินงานยุติปัญหาเอชไอวี/เอดส์ในเรือนจำ เน้นการค้นหา รักษา และติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม ร่วมกันสร้างความรู้ความเข้าใจการติดเชื้อเอชไอวี สร้างความตระหนักในการป้องกันตนเอง และการใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น ภายใต้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลการบริหารจัดการถุงยางอนามัยในเรือนจำ เมื่อพบผู้ต้องขังติดเชื้อเอชไอวีจะส่งไปรักษาต่อในโรงพยาบาลด้วยยาต้านไวรัสทันทีโดยไม่คำนึงถึงค่าตรวจเม็ดเลือดขาว พร้อมติดตามการรับประทานยาและติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงานในปี พ.ศ.2561-2563 พบว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำทุกคนได้รับคำแนะนำในการตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ โดยผู้ต้องขังร้อยละ 80 ยินยอมตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวี โดยพบผู้ต้องขังติดเชื้อเอชไอวีร้อยละ 1.5 ผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรักษาโดยรับยาต้านไวรัส ขณะที่การดำเนินงานโครงการคืนคนสุขภาพดีสู่สังคม ปี 2563 ได้คัดกรองการติดเชื้อเอชไอวี ซิฟิลิส และไวรัสตับอักเสบซี ในกลุ่มผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษ จำนวน 103,355 คน พบผู้ต้องขังติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 204 คน ซิฟิลิส จำนวน 286 คน และไวรัสตับอักเสบซี จำนวน 215 คน และได้เข้าสู่กระบวนการรักษาครบทุกคน

————————————