ต.ค.61 ต่างชาติลงทุนไทยอีก 32 ราย มีเงินลงทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 1,691 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 1,107 คน

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเปิดเผยว่า ในการประชุมของคณะกรรมการฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2561 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าว 32 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และบริติชเวอร์จิน ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 1,691 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิด การจ้างงานคนไทย 1,107 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน

สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่

  1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 5 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 755 ล้านบาท คือ บริการให้กู้ยืมเงิน และบริการรับค้ำประกันหนี้ โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และบริติช เวอร์จิน
  2. ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 10 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 141 ล้านบาท ได้แก่ บริการส่งผ่านข้อมูลข้อความ รูปภาพ หรือเสียงทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริการออกแบบแม่พิมพ์โลหะสำหรับใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริการทดสอบและวิเคราะห์เกี่ยวกับคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของสินค้าอุตสาหกรรม บริการให้ใช้ช่วงสิทธิโปรแกรมซอฟต์แวร์สำหรับบริหารจัดการธุรกิจด้านการดูแลรักษาสุขภาพ บริการให้เช่ารถลากจูงสินค้า เครื่องจัดการคลังสินค้า รถยกโฟร์คลิฟท์ รถยกไฟร์คลิฟท์ บริการให้ใช้แอปพลิเคชั่นสำหรับการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า บริการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าว จากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเยอรมนี
  3. ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาครัฐ จำนวน 4 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 12 ล้านบาท คือ การค้าปลีกอะไหล่อุปกรณ์สำหรับซ่อมอุปกรณ์สื่อสารข้อมูล โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศบริติชเวอร์จิน
  4. ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาช่วงกับภาครัฐ จำนวน 2 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 92 ล้านบาท คือ บริการออกแบบทางวิศวกรรม ประกอบ ติดตั้ง ทดสอบ บำรุงรักษาและซ่อมแซม เครื่องจักรสำหรับการจัดการขยะ มูลฝอยเพื่อผลิตพลังงานด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ การค้าปลีกเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับผลิตพลังงาน   ด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศลักเซมเบิร์ก และจีน
  5. ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาคเอกชน จำนวน 5 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 591 ล้านบาท ได้แก่ บริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ บริการออกแบบทางวิศวกรรม ติดตั้ง บำรุงรักษา และซ่อมแซมเครื่องจักรสำหรับโรงงานผลิตอาหารสัตว์        บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียม โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอินเดีย
  6. ธุรกิจนายหน้า/ค้าปลีก จำนวน 6 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 100 ล้านบาท ได้แก่ นายหน้าประกันวินาศภัย การค้าปลีกระบบทำความร้อนโดยใช้ไอน้ำแบบสุญญากาศ การค้าปลีกแม่พิมพ์ เครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และประดับยนต์ การค้าปลีกเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้ในงานขุดเจาะและงานก่อสร้าง การค้าปลีกเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการลำเลียงของและวัสดุหรือบรรจุสินค้าในสายการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ การค้าปลีกอุปกรณ์รับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ EDC โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศสิงคโปร์ เกาหลี และอิตาลี

การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้ขั้นสูงเกี่ยวกับการดูแลควบคุมหลุมสำรวจ  องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของระบบทำความร้อนโดยใช้ไอน้ำแบบสุญญากาศ องค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรมรับบัตรเดบิต/เครดิต บนเครื่องรับบัตรตามความต้องการ ของลูกค้า องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบวางท่อ ระบบท่อปลอดเชื้อที่ใช้ในการลำเลียงอาหารสัตว์และติดตั้งปลอกหุ้มท่อองค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตเนื้อหาภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และการสร้างสรรค์กราฟิก สำหรับบริการเสริมผ่านมือถือ เป็นต้น

ทั้งนี้ ในเดือนตุลาคม 2561 จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 13 ราย คิดเป็นร้อยละ 68 ในขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 1,457 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 623 เนื่องจากเดือนตุลาคม 2561 มีผู้ได้รับอนุญาต ให้ประกอบธุรกิจ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง คือ บริการให้กู้ยืมเงิน บริการรับค้ำประกันหนี้ และบริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น

อนึ่งในเดือนมกราคม – ตุลาคม 2561 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต จำนวน 229 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 10,471 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง 19 ราย คิดเป็นร้อยละ 8  ขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 3,794 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 57 เนื่องจากในปี 61 มีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการออกแบบทางวิศวกรรมและติดตั้งเหล็กโครงสร้างรูปพรรณและผลิตภัณฑ์คอนกรีต บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นต้น

*****************

ที่มา : กองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ