กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 5 มาตรการ เข้าคูหาเลือกตั้ง อบจ. ปลอดภัยจากโควิด 19 โดยให้ยึดมาตรการ ในหน่วยเลือกตั้งโดยจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ให้บริการพร้อมตรวจเช็กคัดกรองอุณหภูมิ สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่างไม่ให้แออัด ทำความสะอาดอุปกรณ์ พื้นผิวจุดสัมผัสร่วมบ่อย ๆ และลงทะเบียนชัยชนะเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 ประชาชนส่วนหนึ่งต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งในสถานการณ์ที่ ยังพบมีการระบาดของโรคโควิด 19 จึงมีความห่วงใยโดยให้ประชาชนที่ไปเลือกตั้งยังคงเข้ม 5 มาตรการหลักในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ ได้แก่ 1) ในหน่วยเลือกตั้งต้องกำหนดจุดให้มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเพื่อให้บริการประชาชนที่มาใช้สิทธิในทุกหน่วยเลือกตั้งทั้งก่อนเข้าคูหาและหลังออกจากคูหา พร้อมทั้งให้มีเจ้าหน้าที่ตรวจเช็กอุณหภูมิผู้มาใช้สิทธิและหากพบว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ควรให้แยกใช้สิทธิลงคะแนนในคูหาพิเศษซึ่งอยู่บริเวณหน่วยเลือกตั้งเดียวกันเพื่อมิให้ปะปนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนอื่น และแจ้งหน่วยบริการสาธารณสุขเพื่อดำเนินการต่อไป 2) ควบคุมดูแลให้ผู้มีสิทธิและผู้ที่อยู่ในหน่วยเลือกตั้ง สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 3)จัดระยะห่างของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ก่อนเข้าไปยังคูหาเลือกตั้งเพื่อไม่ให้เกิดความแออัดระหว่างกัน 4) ควรมีการทำความสะอาดอุปกรณ์หรือจุดที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ หรืออาจให้ประชาชนนำปากกาส่วนตัวมาเอง และ5) ให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” (www.ไทยชนะ.com) ก่อนเข้ารับบริการในหน่วยเลือกตั้ง
“ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งควรปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาในระหว่างเดินทางที่ต้องใช้รถขนส่งสาธารณะควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและเมื่อเข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรืออาจพกเจลแอลกอฮอล์สำหรับใช้ในการล้างมือ รวมถึงเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และเมื่อกลับถึงบ้านให้รีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ และหมั่นสังเกตอาการตนเองและคนรอบข้าง หากมีไข้ ไอ จาม จมูกไม่ได้กลิ่น ควรพบแพทย์ทัน อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
………………………
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 19 ธันวาคม 2563..