นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดภัยแล้งและอุทกภัยหลายๆพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้ปศุสัตว์ เช่น โคเนื้อ โคนม กระบือ แพะ-แกะ ได้รับผลกระทบในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 3 ล้านตัว และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้น ดังนั้น กรมปศุสัตว์ซึ่งมีภารกิจให้การช่วยเหลือ สนับสนุน เสบียงสัตว์ พันธุ์สัตว์ การป้องกันโรค และการรักษาสัตว์ ทั้งนี้ เพื่อให้การบริการอย่างทั่วถึงจำเป็นต้องมีบุคลากร ที่มีความรู้ความสามารถ เครื่องมือ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสำรองเสบียงสัตว์นั้น จำเป็นต้องมีเครื่องจักรกลการเกษตรขนาดใหญ่ในการปฏิบัติงานในภารกิจต่างๆ เช่น การจัดการแปลงพืชอาหารสัตว์ การสำรองเสบียงสัตว์ อาทิ หญ้าแห้ง หญ้าหมัก และฟางอัดฟ่อน ตลอดจนการเก็บสำรองเสบียงสัตว์เพื่อความมั่นคงด้านอาหารสัตว์ รวมทั้งการช่วยเหลือเกษตรกรเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ เป็นต้น
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2564 กรมปศุสัตว์มีเป้าหมายการพัฒนาศูนย์เครื่องจักรกลการเกษตรด้านปศุสัตว์ (Motor Pool) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรในการจัดการแปลงพืชอาหารสัตว์และการสำรองเสบียงสัตว์ โดยนำร่องในศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ 7 แห่ง ได้แก่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สระแก้ว ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์บุรีรัมย์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ร้อยเอ็ด ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ลำปาง ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์แพร่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เพชรบูรณ์ และศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สุพรรณบุรี โดยศูนย์เครื่องจักรกลการเกษตรด้านปศุสัตว์จะให้บริการเครื่องตัดหญ้า เครื่องอัดหญ้าแห้ง เครื่องเกลี่ยหญ้า และเครื่องสะบัดผึ่งหญ้าแก่กลุ่มเกษตรกร โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กรมปศุสัตว์กำหนด เช่น มีส่วนร่วมในการออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าแรงงาน และค่าวัสดุการเกษตร ตลอดจนเกษตรกรต้องดูแลรักษา และส่งคืนเครื่องจักรกลในสภาพพร้อมใช้งาน
ทั้งนี้ ในการจัดการแปลงพืชอาหารสัตว์ และสำรองเสบียงสัตว์ สามารถทดแทนแรงงาน ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตรทั้งเชิงปริมาณ คุณภาพ และเวลา นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาทิ ภัยแล้ง และอุทกภัย ตลอดจนทดแทนแรงงานภาคเกษตรที่ลดลง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อีกด้วยหากเกษตรกรรายใดสนใจจะขอรับบริการจากศูนย์บริการอาหารสัตว์ สามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ในพื้นที่ หรือ http://nutrition.dld.go.th/nutrition/
……………………………………