การสัมมนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์พื้นที่ต้นแบบการจัดการที่ดินและทรัพยากรโดยชุมชน ณ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ซึ่งจัดโดยมูลนิธิขุมชนไท และภาคีเครือข่ายเข่นมูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ actionaid และสหภาพยุโรป หรือ EU เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 โดยมีผู้ร่วมแลกเปลี่ยนได้แก่ นายดิเรก กองเงิน ประธานสหกรณ์การปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืนบ้านโป่ง ต.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนที่ดินตามโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน จากสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) นายดิเรกเปิดเผยว่า ชุมชนบ้านโป่ง ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินตามมติคณะรัฐมนตรีแล้วบางส่วน แต่ก็ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายเนื่องจากติดปัญหาทั้งเจ้าของที่ดินที่มีการเจรจาซื้อขายแล้วแต่มาพบว่าที่ดินติดจำนอง และยังติดขัดเรื่องงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีไม่อนุมัติงบประมาณให้ บจธ.
ทั้งนี้ นายกุลพัชร ภูมิใจอวด รองผู้อำนวยการ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการ บจธ. ร่วมแลกเปลี่ยนบทบาทภารกิจของ บจธ. ว่าที่ผ่านมาได้แก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินทั้งตามมติคณะรัฐมนตรี และโครงการที่ บจธ. ออกแบบ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจน เช่นโครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบยั่งยืน โครงการป้องกันการสูญเสียสิทธิในที่ดิน และโครงการแก้ปัญหาด้านที่ดินจากนโยบายรัฐ ที่ บจธ. แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้เกษตรกรไปแล้ว 1,369 ครัวเรือน รวมเป็นพื้นที่ทั้งหมดกว่า 5,000 ไร่ และเตรียมบูรณาการร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เพื่อสนับสนุนที่อยู่อาศัยแก่สมาชิกที่ บจธ. จัดสรรที่ดินทำกิน และขณะนี้ยังมีความก้าวหน้าเรื่องร่างพระราชบัญญัติสถาบันจัดการที่ดิน ซึ่งมีมาตราที่ระบุให้จัดตั้งกองทุนที่ดิน เพื่อนำงบประมาณมาใช้ในภารกิจกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ตามนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยขณะนี้ส่งร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล บจธ. แล้ว และขั้นตอนต่อไปคือการรับฟังความเห็น 4 ภาค จะทำให้ สทด. มีกฎหมายรองรับทันที
ขณะที่ นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ปัญหาเรื่องสิทธิชุมชน รวมทั้งข้อพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างประชาชนกับรัฐ ว่า การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน เป็นหนึ่งในอำนาจของประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) คือนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้กรรมการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน ที่เหลือเวลาทำงานอีกเพียง 2 ปีกว่า ได้มีข้อสรุปว่าจะต้องคัดเลือก 5 ประเด็นหลักในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ดิน และการผลักดันร่างพระราชบัญญัติสถาบันบริหารจัดการที่ดิน หรือ สทด. ให้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาในระยะยาว และยังมีการพัฒนา One map ให้เป็นเครื่องมือที่จะช่วยหาข้อยุติในพื้นที่พิพาททับซ้อนระหว่างประชาชนกับพื้นที่ป่าอนุรักษ์อีกด้วย
นางปรีดา คงแป้น ที่ปรึกษามูลนิธิชุมชนไท มีข้อเสนอต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้พี่น้องไทยพลัดถิ่นที่ทยอยได้สัญชาติคืนหลายพันคน ยังประสบปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐ เช่นสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. ในพื้นที่ที่มีชาวไทยพลัดถิ่นอาศัยอยู่ เช่นประจวบคีรีขันธ์ ช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วน
โดยนายเสริม ประกอบปราณ ชาวไทยพลัดถิ่นบ้านไร่เครา ต.คลองวาฬ อ. เมือง จ.ประจวบฯ ที่ได้รับสัญชาติไทยแล้ว กล่าวว่าชาวไทยพลัดถิ่นเดือดร้อนหนักมาก เพราะต้องเช่าบ้าน เช่าที่ดินทำกิน ทำให้พึ่งพาตัวเองแทบไม่ได้ อย่างน้อยได้ที่ดิน ส.ป.ก. มาทำกินบ้างก็ยังดี
…………………………………..