‘พาณิชย์’ ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี FTA อาเซียน-จีน พร้อมหารือแนวทางยกระดับความตกลงฯ รับเทรนด์การค้ายุคใหม่

‘จุรินทร์’ ร่วมหารือกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี FTA อาเซียน-จีน (ACFTA) ผ่านระบบประชุมทางไกล พร้อมโชว์วิสัยทัศน์มุ่งมั่นพัฒนาความร่วมมือเชิงลึกระหว่างอาเซียน-จีน เร่งยกระดับ69ความตกลงฯ สร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในภูมิภาค หาข้อสรุปแนวทางเปิดเสรีสินค้าเพิ่ม หนุนใช้ประโยชน์จาก ACFTA เต็มที่ ชี้! สินค้าที่ไทยใช้สิทธิสูงสุด อาทิ ทุเรียนสด มังคุด ผลิตภัณฑ์ยาง และมันสำปะหลัง   

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในช่วงการหารือของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีน ในการประชุมเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ASEAN-China Free Trade Area (ACFTA) 10th Anniversary Forum) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานของการจัดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (China-ASEAN Expo: CAEXPO) ครั้งที่ 17 ณ นครหนานนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยรัฐบาลจีนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน

นางอรมน กล่าวว่า ไทยในฐานะผู้ประสานงานของอาเซียนในกรอบความตกลง FTA อาเซียน-จีน (ACFTA) ได้ใช้โอกาสนี้ แสดงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นพัฒนาความร่วมมือเชิงลึกระหว่างอาเซียนและจีน เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน และให้สามารถใช้ประโยชน์จากความตกลง ACFTA ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการค้าระหว่างอาเซียนและจีน โดยให้ความสำคัญกับเรื่องความโปร่งใสของกฎระเบียบ มาตรการที่มิใช่ภาษี โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการค้าสินค้าเกษตรที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออก รวมทั้งร่วมกันพิจารณาความร่วมมือสาขาใหม่ๆ อาทิ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยกระดับความตกลงฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าในปัจจุบัน ซึ่งการพัฒนาความร่วมมือดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการขยายการค้าและการลงทุน และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมทั้งช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-จีน และอาเซียน-จีน ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แม้เผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และการแพร่ระบาดของโควิด-19

นางอรมน เสริมว่า ไทยยังได้แสดงบทบาทนำในการผลักดันให้อาเซียนและจีนเร่งหารือ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการเปิดเสรีสินค้าเพิ่มเติม ที่จะเป็นประโยชน์กับอาเซียนและจีน โดยปัจจุบันอาเซียนและจีนมีการลดภาษีสินค้าภายใต้ความตกลง ACFTA เป็นศูนย์แล้วกว่า 90% ของรายการสินค้าทั้งหมด สินค้าที่ไทยใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด อาทิ ทุเรียนสด ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ ฝรั่ง มะม่วง และมังคุด รถยนต์และยานยนต์ขนส่งบุคคล และมันสำปะหลัง

ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยมาเป็นเวลา 8 ปี ติดต่อกัน โดยในปี 2562 การค้าระหว่างไทยกับจีนมีมูลค่า 79,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 16.46% ของการค้าไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปจีนมูลค่า 29,200 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนไทยนำเข้าจากจีนมูลค่า 50,300 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก และเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์

สำหรับในช่วงเดือน ม.ค. – ก.ย. 2563 การค้าระหว่างไทยกับจีนมีมูลค่า 58,456 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว0.84% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562  โดยไทยส่งออกไปจีนมูลค่า 22,140 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากจีนมูลค่า 36,316 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าการส่งออกของไทย ในปี 2562 กับปี 2547 (ก่อนจัดทำความตกลง ACFTA) การส่งออกจากไทยไปจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 310% หรือเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า

——————————-

28 พฤศจิกายน 2563