ทิศทางพัฒนางานกรมการแพทย์ “ก้าวข้ามความท้าทาย” โลกหลังโควิด 19 เน้นระบบสาธารณสุขไทยปลอดภัย

กระทรวงสาธารณสุข จัดสัมมนานโยบายและทิศทางการดำเนินงานกรมการแพทย์ “ก้าวข้ามความท้าทาย” โลกหลังโควิด 19 เน้นการออกแบบระบบสาธารณสุขไทยให้ปลอดภัย และตั้งรับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  พร้อมขับเคลื่อนสร้างเสริม ควบคุม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู สุขภาพคนไทย

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ กทม. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดการสัมมนานโยบายและทิศทางการดำเนินงานกรมการแพทย์ ปีงบประมาณ 2564 ผ่านระบบวิดีโอทางไกล (VDO Conference) เพื่อสื่อสารนโยบายกระทรวงสาธารณสุขและทิศทางการดำเนินงานของกรมการการแพทย์ไปสู่การปฏิบัติ โดยมีบุคลากรในสังกัดกรมการแพทย์ ร่วมสัมมนา 500 คน

ดร.สาธิต กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบนโยบายเพื่อที่จะ “ก้าวข้ามความท้าทาย” โลกหลังโควิด 19 เน้นการออกแบบระบบสาธารณสุขไทยให้ปลอดภัย เพื่อตั้งรับสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบายสำคัญ 10 ประเด็น เร่งแก้ปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประชาชน เพิ่มการเข้าถึงบริการที่รวดเร็ว มีคุณภาพ ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ จึงมอบกรมการแพทย์กำหนดภารกิจให้สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ โรคระบาด สังคมผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และองค์ความรู้ด้านการแพทย์ในระดับนานาชาติ ดังนั้นจึงต้องปรับแนวคิดของบุคลากร นำไปสู่การปฏิบัติที่เข้มแข็ง ร่วมกันผลักดันการสร้างเสริมสุขภาพ การควบคุมป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างครอบคลุม

ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า สถานการณ์การเกิดโรคโควิด 19 ทำให้เกิดการให้บริการการแพทย์วิถีใหม่ (New normal medical service) ที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วย ญาติ และบุคลากรทางการแพทย์ ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลและลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ มุ่งเน้นให้การรักษาตามความจำเป็น โดยแบ่งผู้ป่วยเป็น 3 ประเภท ได้แก่ กลุ่มที่ดูแลตนเองได้ดี ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ ไม่ต้องมาโรงพยาบาล ใช้การจัดส่งยาให้ต่อเนื่อง กลุ่มที่ต้องการปรึกษาแพทย์ด้วยคำถามหรือปัญหาเล็กน้อยบางอย่างโดยไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล ให้บริการ Tele-medicine แพทย์และคนไข้สามารถติดต่อพูดคุย ปรึกษากันผ่านระบบการสื่อสาร และกลุ่มสุดท้ายที่มีความจำเป็นต้องมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล

ด้านนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้ มุ่งหวังให้บุคลากรในสังกัดกรมการแพทย์ได้รับทราบนโยบายสำคัญและทิศทางการดำเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพของประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่คุณภาพและมาตรฐาน บรรลุเป้าหมาย “ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน”

…………………………………………………………………………………….