วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.30 น. พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการ ให้โอกาส สร้างคน หรือ BBG Young Badminton” ระหว่าง สโมสรกีฬาบีบีจี อันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ร่วมกับ สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ณ ห้องอโนมา 1 ชั้น 3 โรงแรมอโนมาแกรนด์ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “ให้โอกาส สร้างคน หรือ BBG Young Badminton” นั้น จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 (สิงหาคม 2559 – ปัจจุบัน) สืบเนื่องจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเห็นความสำคัญในการให้โอกาสแก่เด็กและเยาวชนที่ก้าวพลาด และผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้ได้รับการส่งเสริมทักษะทางวิชาชีพและได้รับการเยียวยาทางสังคมอย่างเหมาะสม สานต่อความหวังและส่งมอบอนาคต อย่างเช่นการนำกีฬามาปรับใช้ โดยพระองค์ทรงมีพระราชดำริว่า “กีฬาแบดมินตัน เป็นกีฬาที่เล่นได้ง่าย สามารถเล่นได้ในทุกที่ ขอเป็นเพียงลานกว้าง ๆ ก็สามารถเล่นได้ อีกทั้งกติกาไม่ยุ่งยาก เล่นได้ทุกเพศทุกวัย คงจะเป็นการดีหากขยายผลกีฬาแบดมินตันให้แก่เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส” และเพื่อให้เด็กและเยาวชนที่ก้าวผิดคิดพลาด หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำผิด หรือกระทำผิดซ้ำ รวมถึงผู้ด้อยโอกาสที่สนในกีฬาแบดมินตันได้เรียนรู้ ฝึกฝน เทคนิค ทักษะ และวิธีการเล่นกีฬาแบดมินตันที่ถูกต้อง พร้อมเป็นนักกีฬาระดับการแข่งขัน นำไปสู่การสร้างอาชีพให้เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นการป้องกันการกระทำผิดซ้ำ จึงโปรดให้สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จัดทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย โดยใช้ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณาเป็นพื้นที่ในการดำเนินโครงการ และตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มีเด็กและเยาวชนของกรมพินิจฯ เข้าร่วม “โครงการ ให้โอกาส สร้างคน หรือ BBG Young Badminton” ทั้งสิ้นแล้ว 197 คน แบ่งเป็นเด็กและเยาวชนในโครงการฝึกอบรมทักษะทางด้านกีฬาแบดมินตัน 114 คน โครงการฝึกอบรมเพื่อเป็นผู้ตัดสิน หรือกำกับเส้นกีฬาแบดมินตัน 56 คน และโครงการสร้างแรงบันดาลใจและสอนกีฬาแบดมินตันจากนักกีฬาทีมชาติให้เด็กและเยาวชน 27 คน ทั้งนี้ มีเด็กและเยาวชนที่ก้าวผิดคิดพลาดที่ผ่านการฝึกอบรมฯ ได้รับการคัดเลือกเป็นนักกีฬาในสโมสรกีฬาบีบีจีจำนวน 2 คน
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในครั้งนี้ พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือกับ นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร ประธานสโมสรกีฬาบีบีจี อันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีฯ โดยมี นางสาวปิยวรรณ ภูมิแก้ว ผู้จัดการสโมสรกีฬาบีบีจี พร้อมด้วยนางปรีดา วิสาโรจน์ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมฯ บ้านกรุณา ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน
โดย พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจฯ กล่าวว่า “กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนต้องขอกราบขอบพระคุณโอกาสที่ดีที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นอย่างยิ่ง ที่ทางสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสโมสรกีฬาบีบีจีได้ให้โอกาสกับเด็กที่มีความผิดพลาดพลั้งเผลอก้าวพลาดในชีวิต ซึ่งท่านได้ยื่นมือ และมอบจิตใจที่โอบอ้อมอารีให้กับเด็กและเยาวชนที่จะเป็นส่วนหนึ่งในอนาคตของประเทศชาติในช่วงชีวิตเวลาที่เขาเหลืออย่างยาวนานในสังคม โครงการนี้เป็นโครงการที่มีความสำคัญแก่ชีวิตและเป็นคุณค่ามากมายต่อชีวิตของเด็กและเยาวชน ซึ่งสิ่งดีงามเหล่านี้มีความยั่งยืนจนมาสู่ปีที่ 5 แล้ว โดยมีกีฬาเป็นเครื่องมือในการนำพาชีวิตของเด็กให้เกิดคุณค่า และทำให้เด็กเห็นว่าชีวิตนั้นยังมีโอกาสอีกมากมาย ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เข้ามา เขาจะไม่มีโอกาสในการดำรงชีวิตอย่างมีทิศทาง เพราะฉะนั้นคุณค่าเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดและมีคำตอบด้วยตัวเองอยู่แล้วว่าสามารถนำไปใช้ดำรงชีวิตได้จริง รวมทั้งกล่อมเกลาจิตใจของเด็กและเยาวชนให้รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต สำหรับวันนี้คงเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งที่กรมพินิจฯ ต้องบันทึกไว้ ต้องกราบขอบพระคุณในความกรุณาเป็นอย่างยิ่ง กรมพินิจฯ ขอเรียนว่าจะรักษาสิ่งเหล่านี้ให้ยั่งยืน และจะพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เจอสิ่งที่ดีงามและใช้กีฬาเป็นเครื่องนำทางตามแนวทางสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ และสโมสรกีฬาบีบีจีได้วางไว้อย่างยั่งยืน ขอบคุณครับ”
ส่วนทางด้าน นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร ประธานสโมสรกีฬาบีบีจี อันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา กล่าวว่า “มีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมโครงการให้โอกาส สร้างคน มาแล้วทั้งสิ้น 662 คน โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทกีฬา ได้แก่ กีฬาแบดมินตัน กีฬาเทเบิลเทนนิส และกีฬาฟุตบอล มียิมกีฬาภายใต้การดูแลของสโมสร รวมทั้งสิ้น 9 ยิม อยู่ภายใต้สังกัดกรมพินิจฯ จำนวน 7 แห่งและหน่วยงานอื่นๆอีก 2 แห่ง โดยในปี 2564 สโมสรกีฬาบีบีจีจะมีการขยายโครงการไปยังพื้นที่ซึ่งขาดโอกาสอีก 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 8 สุราษฎร์ธานี และพื้นที่เสี่ยงต่อยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ทั้งนี้โครงการ BBG Young Badminton เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดำเนินงานสโมสรกีฬาบีบีจี ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการมาถึงปีที่ 5 มีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 197 คน และมี 2 คนที่ได้รับคัดเลือกเข้ามาเป็นนักกีฬาของทางสโมสรบีบีจี ทีม A จำนวน 2 คน มียิมกีฬา 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่ศูนย์ฝึกและอบรมฯ บ้านกรุณา จ.สมุทรปราการ มีการฝึกทักษะกีฬาแบดมินตันเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีทักษะทางด้านกีฬา รวมทั้งส่งเสริมเส้นทางอาชีพทางด้านกีฬาผ่านโครงการการฝึกอบรมกรรมการผู้ตัดสินหรือผู้กำกับเส้น โดยให้เด็กและเยาวชนที่ผ่านการฝึกอบรมได้ฝึกปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการผู้กำกับเส้นจริงในรายการแข่งขันต่าง ๆ ของทางสมาคม ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรมที่มีส่วนร่วมทำโครงการนี้ได้ดำเนินการมาโดยสำเร็จและต่อเนื่อง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินโครงการของสโมสรกีฬาบีบีจี จะสามารถผลักดันเด็กและเยาวชนที่ยังขาดโอกาสในกลุ่มต่างๆ ทั่วประเทศ ให้มีโอกาสในการพัฒนาตนเองในทักษะด้านกีฬา สามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ และต่อยอดสานความมุ่งหวังไปสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพ และดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป”
จากนั้น คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “เป็นพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่ทรงมีพระเมตตาริเริ่มโครงการ ด้วยทรงตระหนักถึงความสำคัญของการให้โอกาสแก่เด็กและเยาวชนผู้กระทำผิด และเสี่ยงต่อการกระทำผิดซ้ำ โดยใช้กีฬาแบดมินตันเป็นเครื่องมือในการพัฒนาพฤตินิสัยของเยาวชน เพื่อช่วยให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างสง่างาม สามารถยืนหยัดเป็นนักกีฬาในระดับประเทศได้ ตลอดจนสามารถประกอบสัมมาอาชีพที่เกี่ยวข้องได้อย่างเต็มภาคภูมิ และเป็นการคืนเยาวชนกลับสู่ครอบครัวและสังคมอย่างมีคุณค่า ทางสมาคมฯ มีส่วนร่วมในการจัดสรรและสนับสนุนงบประมาณสำหรับอุปกรณ์กีฬาแบดมินตัน การฝึกซ้อม การประเมินผล การส่งเด็กและเยาวชนขึ้นเป็นนักกีฬาได้เข้าร่วมแข่งขัน ส่งเสริมให้เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อเป็นกรรมการผู้ตัดสิน หรือผู้กำกับเส้น และจัดหาบุคลากรที่มีประสบการณ์สูงในกีฬาแบดมินตันมาให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และกีฬาเป็นสิ่งที่ตอบความต้องการของเด็กและเยาวชนได้ทุกข้อ เพราะเด็กและเยาวชนต้องการรับความรัก การยอมรับ อิสระ ต้องการความโดดเด่น ความสบายใจ คำชื่นชม หรือเพื่อนที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถหาได้จากการฝึกฝนและการแข่งขันกีฬา ทั้งนี้กีฬายังเป็นเครื่องมือและเป็นเกราะป้องกันอันทรงประสิทธิภาพที่สามารถลดโอกาสการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน เพราะกีฬาเป็นสิ่งที่ดึงเด็กและเยาวชนออกจากสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ ดึงออกจากกิจกรรมที่ไม่ปลอดภัย หรือยาเสพติด การใช้ความรุนแรง และอาชญากรรมด้วย”
สุดท้าย ดร. วิชญะ เครืองาม กรรมการและประธานฝ่ายส่งเสริมกีฬาแบดมินตันเพื่อมวลชน สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่า “มีคำกล่าวหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า กีฬาสร้างคน เพื่อให้คนสร้างชาติ ซึ่งทุกท่านที่อยู่ในที่นี้ในวันนี้กำลังอยู่ในกระบวนการเป็นสักขีพยานในการสร้างน้อง ๆ เยาวชนกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้น้อง ๆ กลุ่มหนึ่งที่ด้อยโอกาส หรือถูกละทิ้งจากสังคมในบางครั้งเข้าไปสู่กระบวนการสร้างคนและสร้างชาติ กระบวนการที่เกิดขึ้นที่ศูนย์ฝึกและอบรมฯ บ้านกรุณา เป็นกระบวนการที่ทำให้น้อง ๆ ที่อยู่ในโครงการมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ในวิถีของความเป็นนักกีฬา ใช้เวลาและโอกาสที่อยู่ในบ้านกรุณาอย่างมีคุณค่า ตลอด 4 ปี ที่ผ่านมาและกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ของโครงการนี้มีเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการที่บ้านกรุณากว่า 200 คนแล้ว เราใช้กีฬาเป็นยาวิเศษที่ป้อนให้น้อง ๆ เพื่อจะผลักดันให้น้อง ๆ ก้าวเข้าไปสู่ความเป็นคนดีของสังคมต่อไป
การลงนามในวันนี้เป็นโอกาสที่ดีของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ที่ได้มีโอกาสตอบแทนคุณของแผ่นดินด้วยการทำกิจกรรมที่เป็นจิตอาสา และเป็นการตอกย้ำยุทธศาสตร์ของสมาคมภายใต้การนำของคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯ ที่เรียกว่า Badminton for Everyone หรือ แบดมินตันเพื่อมวลชน ซึ่งสมาคมฯ ไม่ได้มุ่งเน้นที่จะผลิตนักกีฬาที่เป็นเลิศไปคว้าเหรียญทองหรือคว้าแชมป์เสมอไป เราคำนึงถึงเยาวชนที่อยู่ในสังคมที่ใช้กีฬาในการบำบัด ในการสร้างคน ในการสร้างระเบียบวินัย ที่เป็นวัตถุประสงค์หนึ่งของสมาคมด้วย จึงเป็นความยินดีของคณะทำงานที่ได้มีโอกาสร่วมงานนี้มากว่า 4 ปีแล้ว และเราตั้งใจทำงานนี้ต่อไปร่วมกับสโมสรกีฬาบีบีจี อันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม และร่วมกับศูนย์ฝึกและอบรมฯ บ้านกรุณา เป็น 4 ปีที่มีความอิ่มอกอิ่มใจที่เราได้เห็นพัฒนาการของน้อง ๆ ที่ได้อยู่ในโครงการนี้ เป็นโครงการที่ให้โอกาสสร้างคน และเราต้องการจะเห็นน้อง ๆ ได้รับโอกาสเหล่านี้ และฝึกตนเป็นคนดีต่อไป ขอบคุณครับ”
สำหรับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการ ให้โอกาส สร้างคน หรือ BBG Young Badminton” โอกาสนี้ นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจฯ พร้อมด้วยบุคลากรกรมพินิจฯ สโมสรกีฬาบีบีจี อันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตลอดจนเด็กและเยาวชนกรมพินิจฯ ร่วมงานในพิธีดังกล่าวด้วย
………………………………………