พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงานวุฒิสภา มอบหมาย คณะอนุกรรมาธิการด้านการปฏิรูปประเทศ ในคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ลงพื้นที่สุพรรณบุรี รับฟังข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการภาคภาคเอกชน ส่วนใหญ่ขอให้รัฐช่วยสนับสนุนสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย จะช่วยเพิ่มการจ้างงานกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ได้มอบหมายให้ นายจรินทร์ จักกะพาก รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สองในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ หัวหน้าคณะเดินทางนำคณะอนุกรรมาธิการด้านปฏิรูปประเทศ ในคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อมาเยี่ยมชม รับฟังข้อเสนอแนะของภาคเอกชน และผู้นำชุมชน เพื่อรวบรวมข้อมูลนำเสนอต่อรัฐบาลรับทราบ โดยเดินทางไปยังจุดแรกเป็นกลุ่มบริษัท โชคนำชัย ได้แก่ บริษัทโชคนำชัย ไฮเทค เพรสซิ่ง จำกัด บริษัท โชคนำชัย ออโต้เพรสซิ่ง จำกัด และบริษัท ซีเอ็นซี ดี –เท็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นสถานประกอบกิจการประเภท ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และเรือ ผลิตแม่พิมพ์รถยนต์ โดยมี นายนำชัย สกุลฎ์โชคนำชัย ประธานบริษัทฯ ให้การต้อนรับ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 52/2 หมู่ที่ 2 ตำบลตะค่า อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท ทั้งนี้ สถานประกอบการดังกล่าวต้องการให้รัฐบาลและคนไทยช่วยกันสนับสนุนซื้อสินค้าที่ผลิตโดยฝีมือคนไทย เนื่องจากการจ้างภาคเอกชนไทยผลิต จะเป็นการเพิ่มการจ้างงานทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศกลับมาฟื้นตัวโดยเร็วอีกด้วย
นายจรินทร์ กล่าวว่า การลงพื้นที่จุดที่สอง เป็นหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบ ตำบลไร่รถ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อศึกษาดูงานและเยี่ยมชมหน่วยบริการชุมชนแรงงานนอกระบบตำบลไร่รถ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน และได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ในการอบรมเพื่อทำขนมไทย (วุ้นลาวา) การทำเบเกอรี่ และการทำน้ำพริกแกงเผ็ด โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเพื่อประสานงานให้บริการด้านแรงงานแก่แรงงานนอกระบบในพื้นที่/ชุมชน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารด้านแรงงาน ขยายความคุ้มครองประกันสังคมมาตรา 40 รณรงค์ให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการทำงาน และเป็นการประสานงานด้านการสร้างงาน สร้างอาชีพและรายได้ เป็นต้น สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงานของจังหวัดสุพรรณบุรี
ปัจจุบันมีกำลังแรงงาน 448,771 คน เป็นผู้มีงานทำ 435,505 คน มีผู้ว่างงาน 3,446 คน และผู้รอฤดูกาล 7,820 คน มีแรงงานนอกระบบ 339,264 คน มีสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 2,963 แห่ง ลูกจ้าง 41,577 คน มีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงาน 14,730 คน มีสถานประกอบการที่อยู่ในระบบประกันสังคม 4,090 แห่ง ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม 105,206 ราย มีผู้มาขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์กับสำนักงานประกันสังคม 8,511 คน เป็นเม็ดเงินทั้งสิ้น 52,910,311.40 บาท
………………………………………