พม. จับมือ รพ.กล้วยน้ำไท สร้างอาชีพดูแลผู้สูงอายุและคนพิการ ให้เยาวชนและสตรีที่ประสบปัญหาทางสังคม

วันที่ 12 พ.ย. 63 เวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถนนกรุงเกษม สะพานขาว กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) และโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท โดยมี นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงาน ทั้งนี้ นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ นางสาวอณิรา ธินนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และนายศีขรินทร์ ชเนศร์ ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ดังกล่าว

นายจุติ กล่าวว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของภาครัฐกับภาคเอกชนและภาคประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อบูรณาการการทำงานให้เกิดประโยชน์แก่สังคม โดยจะมีคนดูแลผู้สูงอายุและคนพิการเพิ่มมากขึ้นอย่างมีคุณภาพบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ สำหรับประชาชนที่ต้องการทำอาชีพนี้ แต่ไม่มีใครให้โอกาส วันนี้ จะมีครอบครัวจำนวนมากที่จะได้รับโอกาสด้วยทักษะความรู้เฉพาะ จะเป็นอาชีพที่มั่นคง มั่งคั่ง และสร้างความยั่งยืนให้กับตนเองและสังคม นับเป็นโครงการที่ดี ซึ่งตรงกับจุดแข็งทิศทางประเทศไทยที่ต้องการให้มีผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นก้าวย่างที่มั่นคงที่จะทำให้สังคมเข้มแข็งขึ้น

นายจุติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการขยายต่อยอดโครงการนี้ ภาคเอกชนได้ให้โอกาสกับภาครัฐ โดยจะมีกลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวและเด็กที่จบใหม่ แต่อาจไม่ได้รับการสนับสนุนให้เรียนต่อ ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งจะทำให้มีอาชีพที่มั่นคง และในอนาคต อาจจะขยายไปสู่อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เพื่อพัฒนาพื้นฐานทักษะองค์ความรู้สำหรับดูแลผู้สูงอายุและคนพิการต่อไป


นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการดูแลผู้สูงอายุและคนพิการให้มีมาตรฐานด้านวิชาชีพ โดยการสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับเยาวชนและสตรีที่ประสบปัญหาทางสังคม ด้วยการมอบทุนการศึกษาในหลักสูตรวิชาชีพการดูแลผู้สูงอายุและคนพิการ ตลอดระยะเวลาหลักสูตร 6 เดือน ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ตลอดจนมอบโอกาสในการประกอบอาชีพที่มีรายได้ที่มั่นคง ซึ่งขณะนี้ ยังขาดแคลนผู้ดูแลผู้สูงอายุและคนพิการตามมาตรฐานสากล

……………………………..