สถาบันโรคผิวหนัง เตือน “ระวังการใช้กาวตราช้างลอกสิวเสี้ยน”

สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เตือน“ระวังการใช้กาวตราช้างลอกสิวเสี้ยน” เป็นวิธีที่มีอันตราย อาจทำให้เกิดอาการผิวอักเสบในผู้ที่แพ้กาวหรือส่วนประกอบของกาว อาจทำให้เกิดผิวไหม้ลอก และเป็นแผลเป็นถาวร

นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากข่าวที่มีการแชร์วิธีลอกสิวเสี้ยนที่จมูกโดยการใช้กาวตราช้างทาลงบนกระดาษกาว ก่อนจะปิดลงบนจมูกแล้วลอกออกนั้น เป็นวิธีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้มาก  เพราะอาจทำให้เกิดอาการผิวอักเสบในผู้ที่แพ้กาวหรือส่วนประกอบของกาว การแปะด้วยวิธีดังกล่าว หากใช้ปริมาณกาวมากเกิน ทำให้มีผลข้างเคียงเพิ่มมากขึ้น และหรือหากไปสัมผัสบริเวณผิวหนัง/อวัยวะส่วนอื่น  เช่น รอบดวงตา หรือริมฝีปาก ที่ผิวหนังบอบบาง เกิดอาการระคายเคืองง่าย อาจทำให้เกิดผิวไหม้พอง เป็นแผลเป็นถาวรได้

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กาวตราช้าง หรือที่รู้จักกันในชื่อซุปเปอร์กลูหรือพาวเวอร์กลู เป็นสารเคมีในกลุ่มไซยาโนอะคริเลต(cyanoacrylate) มีคุณสมบัติเป็นสารยึดติดที่แห้งเร็ว ทำให้วัสดุติดทนนาน และนิยมใช้ในเชิงอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม กาวชนิดนี้มีโครงสร้างทางเคมีที่เหมาะสำหรับใช้เฉพาะเชิงอุตลาหกรรม (Industrial grade) การใช้กาวชนิดนี้จึงต้องระมัดระวังไม่ให้สัมผัสโดยตรงที่ผิวหนัง เพราะเกิดปฏิกิริยารวดเร็ว ทำให้มีการคายความร้อนที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังได้มากกว่ากาวที่ใช้เฉพาะทางการแพทย์(Medical grade) นอกจากนี้ การสลายตัวของสารจะมีการปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) และอัลคิลไซยาโนอะคริเลต (Alkyl cyanoacrylate) ซึ่งแม้จะมีปริมาณที่ไม่มากนัก แต่ก็อาจเกิดพิษต่อเนื้อเยื่อและระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย ผู้ที่ต้องการกำจัดสิวเสี้ยนจึงควรใช้วิธีอื่นๆที่มีความปลอดภัยมากกว่า เช่น การใช้สารธรรมชาติ เช่น ไข่ขาว หรือการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนที่มีวางจำหน่ายทั่วไป ถึงแม้จะมีราคาแพงกว่าการใช้กาวตราช้างแต่มีความปลอดภัย ซึ่งไม่เป็นพิษ และเกิดการระคายเคืองกับผิวหนังน้อยกว่า ตลอดจนมีการกำหนดปริมาณกาวในปริมาณที่พอเหมาะและออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยกว่า

 

*********************************************


#กาวตราช้างลอกสิวเสี้ยน #สถาบันโรคผิวหนัง #กรมการแพทย์