รมว.ยุติธรรม กำชับ ศูนย์JSOC เร่งโชว์ผลงานสร้างกระบวนการรับรู้ให้ปชช.เชื่อมั่น ย้ำทุกกรมในกระทรวงต้องบูรณาการร่วมกัน

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์​รัตน์​ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม อธิบดีทุกกรมในกระทรวงยุติธรรม และข้าราชการส่วนต่างๆ ร่วมประชุม โดยมีวาระแรกเป็นการพิจารณารายงานความคืบหน้าการดำเนินการของศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน (JSOC)

โดยนายสมศักดิ์ กำชับว่า การบริหารจัดการของศูนย์ JSOC ต้องทำให้สังคมเชื่อถือ ทำให้เห็นว่าการทำงานของศูนย์ฯมีประสิทธิภาพทำให้สังคมมีความปลอดภัยและสบายใจจากผู้ต้องขังคดีร้ายแรงที่พ้นโทษ หากเราทำแล้วไม่ดี เราจะตกเป็นจำเลยของสังคมแทน นอกจากนี้ต้องมีแผนเพิ่มเติม ต้องสร้างกระบวนการรับรู้ให้แก่ประชาชน ทราบว่า JSOC คืออะไร และมีประโยชน์ต่อสังคมอย่างไรบ้าง หากมีแผนอะไรเพิ่มต้องเขียนขึ้นมา และยังต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ที่จะช่วยในการติดตามผู้ต้องขังที่พ้นโทษ และจะให้ทางข้าราชการและผู้นำท้องถิ่นเขารับรู้อย่างไร และจะช่วยงานได้อย่างไรบ้าง ซึ่งเราต้องสร้างเครือข่ายเหล่านี้ขึ้นมา ขอให้ไปคิดขึ้นมา และการทำงานภายในกระทรวง ทุกกรมต้องทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาเรื่อง การเก็บข้อมูลประวัติอาชญากรเชิงลึกให้เป็นระบบ เพราะที่ผ่านมาข้อมูลเป็นปัญหา เมื่อเกิดคดีขึ้นตำรวจจะลงประวัติผู้ต้องสงสัย แต่เมื่อศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด กลับไม่ได้ลบประวัติออก ทำให้มีประวัติอาชญากรติดตัว ไม่สามารถหางานทำได้ ซึ่งตรงนี้จะต้องมีการทำให้เป็นระบบ แต่ปัญหาคือที่ผ่านมายังไม่มีสร้างบิ๊กดาต้า และยังไม่มีเจ้าภาพในการจัดทำให้เป็นระบบ นอกจากนี้ในที่ประชุม นายสมศักดิ์ ยังให้แนวทางในการสร้างนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ว่า ให้มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลก่อนเป็นอันดับแรก เพราะส่วนใหญ่ยังใช้แรงงานคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ซึ่งขณะนี้มีปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด จนแรงงานไม่สามารถเข้ามาทำงานในไทยได้ หากใช้ตรงนี้เป็นเป้าหมายแรกน่าจะเกิดผลดี

/////