เทสโก้ โลตัส เปิดตัว “ตลาดนัด SME ไทย ถูกใจมหาชน” ประเดิมจังหวัดตราด เปิดพื้นที่ฟรี สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยฝ่าวิกฤตโควิด-19

30 ตุลาคม 63 – เทสโก้ โลตัส เปิดตัวโครงการ “ตลาดนัด SME ไทย ถูกใจมหาชน” ให้พื้นที่ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและเกษตรกรเข้ามาจำหน่ายสินค้าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เริ่มประเดิมแห่งแรกที่เทสโก้ โลตัส จังหวัดตราด ก่อนขยายโครงการสู่สาขาอื่นๆ เพิ่มเติมทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่นๆ

นายธนเดช ตระกูลยิ่งยง ผู้จัดการอาวุโส แผนกรัฐสัมพันธ์ ฝ่ายกิจการบริษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนัก นอกเหนือจากด้านสาธารณสุข คือผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่กระทบต่อรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรไทย ดังนั้น เทสโก้ โลตัส จึงได้วางพันธกิจของเราเอาไว้ 3 ประการ ตั้งแต่การเริ่มต้นของการแพร่ระบาด เพื่อช่วยให้ประเทศไทยสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน โดยพันธกิจทั้ง 3 ประการของเราคือ หนึ่ง ดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและเพื่อนพนักงาน สอง มีสินค้าจำหน่ายเพียงพอต่อความต้องการ ในราคาที่ยุติธรรม และ สาม ช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบ”

“หนึ่งในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 คือผู้ประกอบการรายย่อยและ SME จึงเป็นที่มาของโครงการ “ตลาดนัด SME ไทย ถูกใจมหาชน” ในวันนี้ โดยเทสโก้ โลตัส สาขาตราด เป็นหนึ่งในหลายๆ สาขาทั่วประเทศ ที่มีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นบริเวณหน้าสาขา เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่น มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าโดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดงาน นอกจากนั้น ลูกค้าของเรา ก็ยังสามารถเข้าถึงสินค้าชุมชนคุณภาพสูง และได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนชุมชนให้มีการกระจายรายได้อีกด้วย”

“ตลาดนัด SME ไทย ถูกใจมหาชน” ณ เทสโก้ โลตัส สาขาตราด จัดขึ้นทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป โดยเปิดพื้นที่บริเวณหน้าสาขาให้ผู้ประกอบการรายย่อย ชุมชน และเกษตรกร กว่า 30 ร้านค้า เข้ามาจำหน่ายสินค้าชุมชน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกเหนือจากโครงการนี้แล้ว เทสโก้ โลตัส ยังได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้ผลกระทบ อาทิ โครงการ “Food Paradise รวมความอร่อย รวมใจ ช่วยเกษตรและเอสเอ็มอีไทยฝ่าภัยโควิด-19”  เปิดพื้นที่ภายในศูนย์การค้าเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการมาจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารสดและอาหารแห้งได้โดยไม่เสียค่าเช่าพื้นที่เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ณ 57 สาขาทั่วประเทศ, ลดค่าเช่าให้กับผู้เช่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ภาครัฐให้ปิดบริการชั่วคราว และแม้กระทั้งการช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการรับซื้อผลไม้ฤดูกาลเพิ่มจากปีก่อนถึง 50% เพื่อช่วยรองรับสินค้าเกษตรที่ส่งออกได้น้อยลง

………………………………………………………..