กระทรวงยุติธรรม เปิดตัวโมเดลทำนายการกระทำผิดซ้ำ โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมและศูนย์ Big Data Experience เพื่อพัฒนามาตรฐานการอำนวยความยุติธรรม

ในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ Big Data Experience Center (BX) อาคาร Knowledge Exchange Center (KX) ชั้น 10 ห้อง X01AB ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ ในงานเสวนาวิชาการ เรื่อง “ทิศทางการใช้ประโยชน์จาก Machine Learning และเทคโนโลยี Big Data เพื่อพัฒนามาตรฐานการอำนวยความยุติธรรม” โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นักวิชาการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) นักวิชาการด้านกระบวนการยุติธรรมในส่วนของการบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำผิด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฯ

“โมเดลทำนายการกระทำผิดซ้ำ” เป็นผลลัพธ์จากโครงการพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) กลุ่มภารกิจพัฒนาพฤตินิสัย กระทรวงยุติธรรม โดยใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลของกลุ่มภารกิจพัฒนาพฤตินิสัยมาวิเคราะห์ ซึ่งประกอบ ด้วย 3 ส่วนราชการ คือ กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยสามารถทำนายโอกาสของผู้ที่จะกระทำผิดซ้ำรายบุคคลและแสดงปัจจัยหรือสาเหตุที่ส่งผลต่อการเกิดการกระทำผิดซ้ำ ทั้งนี้ เพื่อให้กระทรวงยุติธรรม ได้ดูแล บำบัด และแก้ไขฟื้นฟู ผู้กระทำผิด ได้อย่างเหมาะสมและตรงจุด ก่อนการปล่อยตัวผู้กระทำผิดกลับคืนสู่สังคม ตามภารกิจหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม อันเป็นการยกระดับมาตรฐานการอำนวยความยุติธรรมต่อไปตามนโยบายของรัฐบาล ให้หน่วยงานภาครัฐใช้การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อการพัฒนาองค์กรและการให้บริการประชาชน

ภายในงานมีกิจกรรมการเสวนา หัวข้อ “ทิศทางการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Big Data เพื่อตอบสนองภารกิจในการอำนวยความยุติธรรม” โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องร่วมเสวนา ประกอบด้วย รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ ดร.ขัตติยา รัตนดิลก ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนากระบวนการยุติธรรม สำนักงานกิจการ​ยุติธรรม ผศ.ดร.พร พันธ์จงหาญ ผู้อำนวยการศูนย์ Big Data Experience และ ดร.พิเศษ สอาดเย็น ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ดำเนินการเสวนา ซึ่งการเสวนาดังกล่าวมีการหยิบยกนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และความคาดหวังในการใช้ประโยชน์จากโมเดลทำนายการกระทำผิดซ้ำเพื่อการแก้ไข ฟื้นฟู ผู้กระทำผิด และกิจกรรมการประชุมระดมความคิดเห็น โดยมีการนำเสนอโมเดลทำนายการกระทำผิดซ้ำ เพื่อรับฟังความคิดเห็น แนวทางในการพัฒนาประสิทธิภาพของโมเดลฯ ในอนาคต

ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในปัจจุบันจากข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ พบว่า สถิติกระทำความผิดซ้ำในห้วงปีแรกของการปล่อยตัว จะอยู่ที่ประมาณ 13 – 15% ในปีที่ 2 จะเพิ่มไปอยู่ที่ประมาณ 23% ในปีที่ 3 อยู่ที่ประมาณ 33 – 35% โดยโมเดลทำนายการกระทำผิดซ้ำนี้ เป็นการนำมาเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถที่จะประมวลว่าผู้ที่เข้ามาอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กแต่ละคนมีปัญหาที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างไรบ้าง เช่น ประมวลว่าจะมีปัญหาทางจิต ประมวลว่าอาจจะมีปัญหาในเรื่องของการศึกษา ประมวลว่าอาจจะมีปัญหาในเรื่องของครอบครัว และอื่นๆ อีกมากมาย การประมวลผลนี้จะเป็นการทำให้เราสามารถที่จะทราบถึงประเด็นที่มีความสำคัญกับโอกาสที่เขาจะกระทำความผิดซ้ำ ฉะนั้นเครื่องมือนี้จะถูกใช้เป็นตัวชี้เป้าแล้วให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้กลไกของกรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในการแก้ไขปัญหาในเรื่องการศึกษา เพิ่มสกิลการทำงาน และอื่นๆ อีกมากมาย จะเป็นปัญหาเรื่องครอบครัวซึ่งจะต้องละเอียดว่าเป็นปัญหาในเรื่องอะไรบ้าง ถ้าเราได้ทำการแก้ไขแล้ว เครื่องมือนี้ก็จะประมวลอีกว่าปัญหาต่างๆ เหล่านั้น เปอร์เซ็นต์ในโอกาสที่จะเป็นการกระทำผิดซ้ำมีโอกาสจะลดลงได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งถ้าเครื่องมือนี้ทำงานได้ดีก็จะช่วยทำให้เจ้าหน้าที่มีความชัดเจน แล้วก็ดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง แล้วก็ทำให้โอกาสในการกระทำผิดซ้ำของคนในกลุ่มนี้ลดลงได้ โดยกระทรวงยุติธรรม มีแผนการนำเทคโนโลยี big data มาใช้ในการให้บริการประชาชนในด้านอื่นๆ อีกหลายตัว ปัญหาใหญ่เรื่องการกระทำความผิด ถ้าเรามีเครื่องมือที่จะประมวลสาเหตุของการกระทำความผิดได้ และเราชี้ถึงเรื่องของพื้นที่ เวลาและปัจจัยในเรื่องบุคคล ก็น่าจะสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาในการวางแผนและการป้องกันอาชญากรรมได้ด้วย ซึ่งเรื่องนี้อาจจะใหญ่กว่าเรื่องการแก้ปัญหาการกระทำความผิดซ้ำอีกมาก เพราะจะเกี่ยวข้องกับหน่วยต่างๆ หลายหน่วย

ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นการสร้างความปลอดภัยและความสงบสุขของสังคม ตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรม ว่า เรื่องการสร้างความปลอดภัยโดยส่วนใหญ่ก็จะไปอยู่ในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ สำหรับกระทรวงยุติธรรม เราดูแลในเชิงนโยบาย และในส่วนของคนที่กระทำความผิดแล้วกับอาชญากรรมพิเศษ แต่เราก็ได้มีการวางแผนในการดำเนินการที่จะสนับสนุน โดยเฉพาะในเรื่องของการป้องกันการกระทำความผิดที่จะเกิดขึ้นในสังคม ขอให้ประชาชนได้ให้ความเชื่อใจว่ากระทรวงยุติธรรมไม่ได้หยุดนิ่งในการดูแลปัญหาเรื่องนี้

——————————