วันที่ 20 ตุลาคม 2563 ตามที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยในสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้กรมชลประทานติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือ นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน จึงได้มอบหมายให้ นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ สร้อยประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้ว และคณะเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสระแก้ว โดยในช่วงเช้าได้เดินทางไปยังบริเวณสถานีวัดน้ำ kgt 1.0 คลองพระสะทึง และบริเวณสะพานร่วมความสามัคคีแก่งสีเสียด ตำบลสระขวัญ อำเภอเมือง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และผลกระทบในพื้นที่ชุมชนโดยรอบ ซึ่งกรมชลประทาน ได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 4 เครื่อง เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่จะดีขึ้นภายใน 5 วัน
พร้อมทั้งได้เดินทางไปยังบริเวณชุมชน หมู่ที่ 6 ตำบลโคกปี่ฆ้อง อำเภอเมือง เพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และร่วมแจกจ่ายถุงยังชีพให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่
จากนั้น นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ สร้อยประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้วได้เดินเข้าร่วมการถ่ายทอดสดรายการ “ที่นี่ สวท.สระแก้ว” FM 103.25 MHz. ณ สถานีวิทยุกระจายเสียง กรมประชาสัมพันธ์ จังหวัดสระแก้ว เพื่อร่วมให้ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำภาพรวมในจังหวัดสระแก้ว แนวทางการให้การช่วยเหลือของกรมชลประทาน รวมถึงโครงการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆในระยะยาว ซึ่งจะส่งเสริมความเป็นอยู่ประชาชนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
โดยในช่วงบ่าย นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังชุมชนบ้านหนองคล้า (กุดบอน) หมู่ 7 ตำบลวังตะเคียน อำเภอกบินทร์บุรี และชุมชนตลาดเก่า ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น
นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สำหรับพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรีที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่มาจากจังหวัดสระแก้ว นั้นคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะลดลงภายใน 7 – 10 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและพายุที่จะมีอิทธิพลในช่วง 25 -26 ตุลาคม 2563 ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทานจึงได้มีมาตรการในการหน่วงน้ำให้มากที่สุด เพื่อชะลอการไหลของน้ำยังพื้นที่และลดผลกระทบกับพื้นที่ชุมชนริมตลิ่ง และเตรียมพร้อมเครื่องมือในช่วยเหลือให้ทันท่วงที จึงสามารถมั่นใจได้ว่าระดับน้ำจะมีความคงที่ไม่ขึ้นสูง ทั้งนี้ กรมชลประทานได้มีแนวทางการศึกษาการสร้างแก้มลิงในพื้นที่รับน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งและลดผลกระทบจากอุทกภัยในอนาคต เพื่อแก้ไขปัญหาการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน