รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 20 ตุลาคม 2563

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย, ซูดานใต้ 6 ราย, โอมาน 1 ราย) ทุกรายเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 3 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,491 รายหรือคิดเป็นร้อยละ 94.35 ของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 150 รายหรือร้อยละ 4.05 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,700 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจาก

สหรัฐอาหรับเมิเรตส์ 2 ราย เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 9 ตุลาคม 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ในกรุงเทพมหานคร

รายแรก เพศชาย อายุ 22 ปี สัญชาติไทย อาชีพนักศึกษา ตรวจหาเชื้อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 (วันที่ 7 ของการกักตัว) ผลพบเชื้อไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดนนทบุรี

รายที่ 2 เพศหญิงอายุ 25 ปี สัญชาติไทย อาชีพพนักงานนวด/ สปา ตรวจหาเชื้อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 (วันที่ 7 ของการกักตัว) ผลพบเชื้อ เคยมีอาการไอ ปวดศีรษะ และเคยมีประวัติติดเชื้อโควิด 19 วันที่ 1 กันยายน 2563 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดนนทบุรี

โดยก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 1 ราย ได้เข้าสู่ระบบกักตัวและรับการรักษาที่โรงพยาบาล

ซูดานใต้ 6 ราย ทั้งหมดเป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 25, 30, 40, 49 ปี และ 33 ปี 2 ราย อาชีพข้าราชการ (ทหารช่างเฉพาะกิจ) เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 12 ตุลาคม 2563 ตรวจหาเชื้อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 (วันที่ 3 ของการกักตัว) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ในจังหวัดชลบุรี เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลทหารในกรุงเทพมหานคร ก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 6 ราย ทุกรายได้เข้าสู่ระบบกักตัวและรับการรักษาที่โรงพยาบาลตามระบบ

โอมาน 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 26 ปี สัญชาติไทย อาชีพรับจ้างทั่วไป เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ตรวจหาเชื้อวันที่ 18 ตุลาคม 2563 (วันที่ 4 ของการกักตัว) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ในจังหวัดชลบุรี เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการ

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รายงานวันนี้ 337,854 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกกว่า 40 ล้านราย โดยแต่ละประเทศได้มีมาตรการเข้มในการป้องกันควบคุมโรคที่แตกต่างกันไป ที่น่าสนใจ อาทิ ที่ประเทศอิตาลีนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายกเทศมนตรีทุกแห่งได้สั่งปิดจัตุรัสสาธารณะ ตั้งแต่เวลา 21.00 น.เป็นต้นไป และทางการอิตาลียังสั่งปิดร้านรับพนันอย่างถูกกฎหมายตั้งแต่เวลา 21.00 น. และระงับการแข่งขันกีฬาต่างๆในระดับสมัครเล่น รวมถึงงานแสดงสินค้าในระดับท้องถิ่น และกำลังพิจารณาปิดศูนย์ออกกาลังกายทั้งหมด เพื่อลดการรวมตัวของประชาชน และพยายามระงับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กได้สั่งล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วนของประเทศเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ส่วน โรงเรียน, บาร์ และคลับต่างๆ จะถูกปิดไปจนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ร้านอาหารจะเปิดได้จนถึงเวลา 20.00 น. ให้บริการแบบซื้อกลับบ้าน หรือส่งถึงบ้านเท่านั้น และการรวมตัวกันไม่ว่าจะในบ้านหรือกลางแจ้งถูกจำกัดไม่ให้เกิน 6 คน

จากประเด็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลายประเทศได้ให้ความสำคัญกับการลดการรวมกลุ่มหรือลดความแออัด เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่าย สำหรับประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากากอนามัย/ หน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ โดยขอความร่วมมือให้ทุกคนปฏิบัติให้เกิดความเคยชินและเป็นนิสัย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง ลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ผ่าน “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่เข้าใช้บริการ เพราะหากพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังควบคุมโรค