กรมบังคับคดีชี้แจงกรณีนายวิชิตร์ฯ ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับหมายศาลตกเป็นจำเลยถูกฟ้องล้มละลายกว่า 97 ล้านบาท

ตามที่ปรากฏข่าวเรื่องนายวิชิตร์ มนปราณีต ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับหมายศาลตกเป็นจำเลยถูกฟ้องล้มละลาย กว่า 97 ล้านบาท กลัวจะตกเป็นแพะถูกจับติดคุกฟรี ตนไม่รู้จักและเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวและไม่รู้ว่ามีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ล้มละลายได้อย่างไร

กรมบังคับคดีตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าเป็นคดีล้มละลายของศาลล้มละลายกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ล 3806/2562 ระหว่าง กรมสรรพากร โจทก์ บริษัท ภูเก็ต มอนติ คาโล จำกัด จำเลย ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บริษัทฯ จำเลย เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงต้องออกหมายเรียกให้กรรมการผู้มีอำนาจ จัดการแทนบริษัทฯ จำเลยมาให้การสอบสวนเพื่อให้ได้ความเกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทฯ จำเลย
แต่จากการตรวจสอบเอกสารทางทะเบียนพบว่ามีกรรมการผู้มีอำนาจจัดการแทนบริษัทฯ จำเลยเพียงคนเดียวและได้เสียชีวิตแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จึงได้ตรวจสอบเพิ่มเติมจากเอกสารทางทะเบียนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ทราบว่ามีบุคคลใดเป็นผู้ถือหุ้นบ้าง และได้มีหมายไปถึงบุคคลที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำเลย เพื่อให้มาให้การสอบสวนเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สิน ซึ่งรวมถึงนายวิชิตร์ มนปราณีต ที่เป็นหนึ่งในรายชื่อ
ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำเลยด้วย

การดำเนินการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นายวิชิตร์ มนปราณีต มาพบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อให้การสอบสวนเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของบริษัท ภูเก็ต มอนติ คาโล จำกัด จำเลย เนื่องจากปรากฏชื่อนายวิชิตร์ มนปราณีต เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำเลยเท่านั้น กรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นกรณีที่นายวิชิตร์ มนปราณีต ตกเป็นบุคคลล้มละลายแต่อย่างใด ทั้งนี้กรมบังคับคดีได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ประสานไปยังนายวิชิตร์ มนปราณีต เพื่อไปให้การสอบสวนเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ณ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว ซึ่งหากมีประเด็นข้อสงสัยประการใดทั้งในส่วนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหรือต้องการคำแนะนำ สามารถสอบถามกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กองบังคับคดีล้มละลาย 3 ได้ต่อไป

กรมบังคับคดี 0 2881 4999 หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 เว็บไซต์กรมบังคับคดี www.led.go.th

……………………………………………….