กรมควบคุมโรค แนะ 3 วิธีเลือกรถทัวร์เช่าเหมา พร้อมเตือนผู้ขับขี่ยึดหลัก 3 ข้อก่อนขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟ

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะนำประชาชนในการเดินทางไกลเป็นหมู่คณะ ควรมีการวางแผนและศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง โดยยึดหลัก 3 วิธีเลือก คือเลือกรถเช่า-เลือกผู้ประกอบการ-เลือกคนขับ และเตือนผู้ขับขี่ 3 ข้อก่อนขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟ คือเพิ่มความระมัดระวัง-สังเกตป้ายเตือน-เมื่อมีสัญญาณไฟเตือนควรหยุดรถ เพื่อให้ปลอดภัยในการเดินทางทุกครั้ง

วันที่ 12 ตุลาคม 2563 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์อุบัติเหตุรถไฟชนกับรถทัวร์ที่เดินทางไปทอดกฐิน เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก นั้น กรมควบคุมโรค ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางถนน ว่า จากรายงานการบูรณาการข้อมูลผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2558-2562) ประเทศไทยสูญเสียพี่น้องคนไทยให้กับอุบัติเหตุไปกว่า 1 แสนราย (103,147 ราย) และมีแนวโน้มลดลงเพียงเล็กน้อย ซึ่งในช่วงออกพรรษาประมาณเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนจะเป็นช่วงของการเดินทางทำบุญทอดกฐินของคนไทย พบว่า 2 เดือนดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 5 ปี จำนวน 3,448 ราย ซึ่งสูงกว่าช่วงเข้าพรรษา (กรกฎาคม-กันยายน) ร้อยละ 13.48 นอกจากนี้ จากสถิติของกระทรวงคมนาคมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟ จำนวน 383 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 138 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 371 ราย โดยเฉลี่ยเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟประมาณ 77 ครั้งต่อปี มีผู้เสียชีวิต 28 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 74 ราย

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคฝากความห่วงใยถึงผู้ขับขี่ทุกคน โดยขอให้ยึดหลัก 3 ข้อก่อนขับรถผ่านเส้นทางจุดตัดทางรถไฟเพื่อความปลอดภัย ดังนี้

1.ควรเพิ่มความระมัดระวังการขับขี่โดยเฉพาะในเส้นทางจุดตัดทางรถไฟที่ไม่ชำนาญเส้นทาง

2.หมั่นสังเกตป้ายเตือนสัญลักษณ์ทางรถไฟ ควรชะลอความเร็วและหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ พร้อมมองซ้ายและขวาจนแน่ใจจึงค่อยขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ และหากมีสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางรถไฟ ไม่ควรหยุดหรือจอดรถคร่อมรางรถไฟเป็นอันขาด

3.เมื่อมีสัญญาณไฟเตือนว่ารถไฟกำลังมา และแผงไม้กั้นจะค่อยๆ ปิดลงมา ควรหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟในระยะไม่ต่ำกว่า 5 เมตร ไม่ควรเร่งความเร็วและข้ามทางรถไฟขณะไม้กั้นค่อยๆ ปิดลง เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ นอกจากนี้ ไม่ควรเปิดเพลงในรถเสียงดังเกินไป เพราะอาจไม่ได้ยินเสียงเตือนจากรถไฟ

นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า จากสถิติอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ ข้อมูลจากศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ปี 2559 เกิดอุบัติเหตุถึง 239 ครั้ง หรือ 19 ครั้งต่อเดือน โดยเป็นรถประจำทาง 187 ครั้ง และรถรับจ้าง 52 ครั้ง กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไกลเป็นหมู่คณะ ควรมีการวางแผนและศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง และเลือกผู้ประกอบการรถทัวร์เช่าเหมา เพื่อความปลอดภัยของคณะเดินทางทั้งหมด ด้วย 3 วิธีเลือก ดังนี้

1.เลือกรถเช่าที่จดทะเบียน มีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย หลีกเลี่ยงรถโดยสาร 2 ชั้นในเส้นทางโค้งและมีความลาดชัน เพราะจากข้อมูลศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย พบว่ารถโดยสารสองชั้นมีโอกาสพลิกคว่ำได้ง่ายกว่ารถชั้นเดียวถึง 8 เท่า

2.เลือกผู้ประกอบการที่มีสมุดประจำรถ มีการตรวจสภาพความพร้อมของรถและพนักงานขับรถประจำ จัดทำประกันภัยให้ครอบคลุมผู้โดยสารทั้งหมด

3.เลือกคนขับ โดยการตรวจสอบชื่อ-สกุล เลขที่ใบอนุญาตขับรถ ไม่เสพสารเสพติดและแอลกอฮอล์ ชำนาญเส้นทาง มีใบอนุญาตขับรถตรงตามประเภทของรถ เลือกรถให้เหมาะสมกับการเดินทาง โดยเน้นให้ผู้เช่ารถ เลือกรถที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วน เข็มขัดนิรภัยสามารถใช้งานได้ทุกที่นั่ง มีค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง และทางออกฉุกเฉินพร้อมใช้งาน

โดยในช่วงเดือนตุลาคมนี้เป็นช่วงที่มีลมพายุ ฝนตกหนักในบางพื้นที่ ทำให้มีน้ำท่วมขัง ถนนลื่น ผู้ใช้รถใช้ถนนควรศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางไกล ใช้ความระมัดระวัง ไม่ขับรถเร็ว เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย รถจักรยานยนต์ สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่และซ้อนท้าย หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้โทร.1669 เพื่อขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพฉุกเฉินทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

……………………………………………….
ข้อมูลจาก : กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค
วันที่ 12 ตุลาคม 2563