สนค. จับมือ WEF จัดงาน Hackathon นำเทคโนโลยีช่วยเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่าสนค. ได้หารือกับ World Economic Forum (WEF) เพื่อเตรียมโครงการพัฒนาเกษตรกรระดับฐานราก โดย WEF  มีผู้แทนจาก WEF-Grow Asia ซึ่งเป็นหน่วยงานของ WEF ที่ทำงานด้านเกษตรมาร่วมการหารือ เบื้องต้น ตกลงจะร่วมกันจัดงานแฮ๊คคาธอน (Hackathon) หรือการระดมสมองเพื่อประกวดแนวคิด หัวข้อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่ภาคเกษตร (Digitizing Agriculture) ในช่วงต้นปี 2562

“ปีนี้ สนค. มุ่งเน้นการทำยุทธศาสตร์และโครงการที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของไทยในด้านต่าง ๆ โดยจะเริ่มที่ภาคเกษตรและกิจกรรมที่สนับสนุน SME และ Startup เป็นหลัก เพราะเราได้ศึกษามาระยะหนึ่งแล้ว พบว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่จะไม่เพียง disrupt การผลิตหรือภาคอุตสาหกรรมและภาคการเงินเท่านั้น แต่หลายอย่างสามารถนำมาใช้พัฒนาภาคเกษตรและเศรษฐกิจฐานรากได้ เช่น AI บล็อกเชน ระบบเซนเซอร์ (IoT) เครื่องโดรน หุ่นยนต์ จะมีส่วนช่วยทำให้เกษตรกรและ SME เชื่อมโยงกับตลาดได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ลดต้นทุน ลดขั้นตอน ทำให้มีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาว เป็นการนำเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นรูปธรรม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน เช่น ประเทศจีน สามารถนำเทคโนโลยีมาพัฒนาภาคเกษตรได้อย่างก้าวกระโดด โดยเรื่องนี้ WEF-Grow Asia เขาทำอยู่แล้วเป็นงานหลัก มีเครือข่ายเกษตรกรและผู้ประกอบการจำนวนมากในภูมิภาคเอเชีย ถือว่าได้ partners ที่ถูกฝาถูกตัวกัน” นางสาวพิมพ์ชนกกล่าว

นายแกรมห์ ดิกซีย์ ผู้อำนวยการบริหารของ WEF-Grow Asia และนายพอล วูเตียร์ ผู้อำนวยการฝ่ายความรู้และนวัตกรรม กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรม Hackathon 2018 ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และAg-tech Startups ร่วมกันพัฒนา solutions สำหรับการบริหารจัดการสินค้าเกษตร รวมทั้ง ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับภาคเกษตรในมิติต่าง ๆ อาทิ การใช้ประโยชน์จากข้อมูล/ความรู้ การพัฒนาผลิตภาพ (Productivity) การลดต้นทุนโลจิสติกส์ และ การขยายช่องทางตลาด รวมทั้งการเข้าถึงแหล่งทุนแล้ว ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี มั่นใจว่าสามารถนำมาใช้กับประเทศไทยได้ เพื่อยกระดับให้เกษตรรายย่อยพัฒนา เป็นผู้ประกอบการและแข่งขันได้มากขึ้น

ในเบื้องต้น สนค. และ WEF-Grow Asia จะร่วมกันจัดประชุมหารือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการค้าสินค้าเกษตร และจะนำไปสู่การจัดกิจกรรม Hackathon เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา solutions ในการยกระดับศักยภาพทางการค้าของเกษตรรายย่อย ซึ่ง สนค. จะหารือร่วมกับเครือข่าย Young Smart-Farmer และภาคีอื่นๆ  ในรายละเอียดต่อไป โดยคาดว่าจะมุ่งเน้นในสินค้าเกษตรมูลค่าเพิ่มสูง อาทิ ข้าวสี และข้าวอินทรีย์ รวมถึงการขยายโอกาสในตลาดโลกด้วย ทั้งนี้ Grow Asia จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา (Consulting)     และช่วยเชื่อมโยงเกษตรกรกับภาคเอกชนทั้งของไทยและต่างประเทศ

ผอ. สนค. กล่าวปิดท้ายว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาการค้ารองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ ซึ่ง สนค. ในฐานะหน่วยงานวิชาการของกระทรวง กำลังทำงานร่วมกับหลายกลุ่ม เช่น นักวิชาการ เกษตรกร ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ โดยในปี 2562 สนค. จะมีโครงการนำร่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อการค้า (Technology for Trade) เพื่อนำมาเสริมศักยภาพทางการค้าให้กับเกษตรกรรายย่อย เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้า การตรวจสอบย้อนกลับของสินค้าเกษตร (Traceability) การคาดการณ์ผลผลิตการเกษตร การนำบล็อกเชนมาจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา เช่น GI เป็นต้น