กรมบังคับคดี เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พบสูงถึงร้อยละ 90.2

วันที่ 5 ตุลาคม 2563 นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี ร่วมกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นพดล กรรณิกา หัวหน้าโครงการสำรวจฯ บริษัท ซูเปอร์โพล จำกัด แถลงผลการวิจัยโครงการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยผลจากการสำรวจพบว่าร้อยละ 90.2 เชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีในภาพรวม ซึ่งสูงกว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ที่มีผลความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีในภาพรวม ร้อยละ 88.2

นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี แถลงว่า ภารกิจหลักของกรมบังคับคดีเป็นการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล เป็นกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เพื่อสร้างความเป็นธรรม และอำนวยความสะดวกแก่คู่ความทุกฝ่ายในคดี รวมถึงประชาชนผู้รับบริการ ตามแผนปฏิบัติราชการ 3 ปี (พ.ศ. ๒๕๖3 – ๒๕๖5) กรมบังคับคดีกำหนดยุทธศาสตร์การเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรและยกระดับธรรมาภิบาล เพื่อให้มีภาพลักษณ์องค์กรที่น่าเชื่อถือ โปร่งใส เป็นธรรม เสมอภาค และทันสมัย เป็นองค์กรที่มีระบบการบังคับคดีที่มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เกินความจำเป็น ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวก และได้รับการตอบสนองความต้องการ

รวมทั้งมีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นถึงความต้องการและความพึงพอใจของประชาชนผู้รับบริการเป็นหลักสำคัญ และเพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปสู่ LED – Thailand 4.0 ยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนตามนโยบายการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เสริมสร้างความเชื่อมั่นของการบังคับคดี สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมั่งคั่ง ยั่งยืน จึงทำให้ กรมบังคับคดี เป็นหน่วยงานภาครัฐต้นแบบการสร้างและพัฒนากำลังคนภาครัฐเชิงกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่ดิจิทัลไทยแลนด์

ดังนั้น การนำความเห็นจากผู้รับบริการผู้มีส่วนได้เสียมาปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพของงานราชการและบริการประชาชน เพื่อเป็นการสนับสนุนการปรับปรุงการให้บริการโดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง จึงให้มีการสำรวจวิจัย “โครงการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖3” โดยมอบหมายให้บริษัท ซูเปอร์โพล จำกัด เป็นผู้ดำเนินการตามโครงการนี้ เพื่อให้การสำรวจมีความเป็นมาตรฐาน น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับ มีความเป็นกลาง และปราศจากอคติ ในการสำรวจจึงต้องมีผู้ประเมินอิสระจากหน่วยงานภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นพดล กรรณิกา หัวหน้าโครงการสำรวจฯ แถลงว่า การวิจัยสำรวจครั้งนี้เป็นการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการบังคับคดี ใน 7 กระบวนการ ได้แก่

1. กระบวนการบังคับคดีแพ่ง

2. กระบวนการบังคับคดีล้มละลาย

3. กระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้

4. กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี

5. กระบวนการติดตามและเฉลี่ยทรัพย์สินในคดีล้มละลาย

6. กระบวนการประมูลซื้อทรัพย์/ขายทอดตลาด และ

7. กระบวนการวางทรัพย์

โดยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี จากกลุ่มประชากรเป้าหมาย จำนวนทั้งสิ้น 3,458 รายทั่วประเทศ โดยการสำรวจครั้งนี้ใช้วิธีการดำเนินการเก็บข้อมูล 3 ส่วน คือ

การสัมภาษณ์แบบเผชิญหน้า (Face-to-face Interview) การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และ
การจัดสนทนากลุ่ม (Focus Group) โดยสรุปผลการสำรวจได้ ดังนี้
​​1. ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีในภาพรวม
▪ ร้อยละ 90.2 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีโดยภาพรวม
▪ ร้อยละ 89.7 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีแพ่ง
▪ ร้อยละ 85.6 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีล้มละลาย
▪ ร้อยละ 84.7 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
▪ ร้อยละ 86.2 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
▪ ร้อยละ 84.6 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการติดตามและเฉลี่ยทรัพย์สินในคดีล้มละลาย
▪ ร้อยละ 87.0 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการประมูลซื้อทรัพย์/การขายทอดตลาด
▪ ร้อยละ 85.7 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการวางทรัพย์

2. ความพึงพอใจต่อกระบวนการบังคับคดี ในแต่ละกระบวนการ
▪ ร้อยละ 90.4 กระบวนการบังคับคดีแพ่ง
▪ ร้อยละ 88.9 กระบวนการบังคับคดีล้มละลาย
▪ ร้อยละ 89.7 กระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
▪ ร้อยละ 87.5 กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
▪ ร้อยละ 90.3 กระบวนการติดตามและเฉลี่ยทรัพย์สินในคดีล้มละลาย
▪ ร้อยละ 89.7 กระบวนการประมูลซื้อทรัพย์ การขายทอดตลาด
▪ ร้อยละ 90.1 กระบวนการวางทรัพย์

3. ความพึงพอใจต่อกระบวนการบังคับคดีในภาพรวม
▪ ร้อยละ 86.8 ความพึงพอใจต่อกระบวนการบังคับคดีในภาพรวม
▪ ร้อยละ 86.6 มีความโปร่งใสในทุกขั้นตอนของการดำเนินการและบริการ
▪ ร้อยละ 87.3 ยึดหลักกฎหมายในการดำเนินการและบริการ
▪ ร้อยละ 87.4 การบังคับคดีตามคำพิพากษา หรือคำสั่งศาล เพื่อให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้รับชำระหนี้
▪ ร้อยละ 89.1 ดำเนินการขายฯด้วยความโปร่งใส และไม่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ใด

ทั้งนี้ กรมบังคับคดี จะได้สำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี อย่างต่อเนื่องต่อไปในทุกๆปี เพื่อพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความพึงพอใจให้กับประชาชนผู้รับบริการ รวมถึงเพื่อเป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรมบังคับคดีที่สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ในการเสริมสร้างการรับรู้ความเข้าใจ ความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของสาธารณชนต่อภารกิจสำคัญในกระบวนการบังคับคดี

……………………………………………