พม. มอบโล่ประกาศเกียรติคุณผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศ เนื่องในงานครบรอบ 18 ปี พร้อมดึงภาคเอกชนร่วมทำ CSR “สร้างสังคมดี คนมีคุณภาพ”

วันที่ 3 ต.ค. 63 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในงานประกาศเกียรติคุณผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ครบรอบ 18 ปี พร้อมทั้งมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศให้แก่หน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. ที่มีผลงานเป็นเลิศจำนวน 18 รางวัล หน่วยงานบริษัทหรือภาคธุรกิจเอกชนที่มีผลงาน CSR เป็นเลิศ จำนวน 18 รางวัล หน่วยงาน บริษัทหรือภาคธุรกิจเอกชนที่สนับสนุน “พม.ห่วงใยสู้ภัยโควิด 19” จำนวน 36 รางวัล รวมจำนวน 72 รางวัล และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณและใบประกาศเกียรติคุณแก่บุคลากรที่ได้รับการคัดเลือกเป็น “1 คนดีมีจริยธรรม 1 หน่วยงาน พม.” จำนวน 9 รางวัล

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากหน่วยงานต่างๆ และการประมูลทรัพย์หลุดจำนำ โดยมี คณะผู้บริหาร และบุคลากร กระทรวง พม. รวมทั้งผู้แทนภาคีเครือข่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงาน ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ

นายจุติ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านสังคมที่ต้องดูแลกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ คนไร้ที่พึ่ง และขอทาน รวมทั้งผู้มีรายได้น้อย และผู้ด้อยโอกาสโดยต้องอาศัยการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในสังคม ตามวิสัยทัศน์ “สร้างสังคมดี คนมีคุณภาพ” ผสานกับเจตนารมณ์ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานที่มีผลสัมฤทธิ์ รองรับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม นำพาสังคมไทยไปสู่เป้าหมาย “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อจะนำสังคมก้าวไปสู่ความเจริญงอกงาม ซึ่งกระทรวง พม. ได้ขับเคลื่อนภารกิจด้านการพัฒนาสังคมตาม พ.ร.บ. ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2545 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ การไปสู่เป้าหมายดังกล่าว จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากบุคลากรของกระทรวง พม. ที่มุ่งบริการประชาชนอย่างมืออาชีพ และจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วม สร้างประโยชน์ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะความร่วมมือจากหน่วยงาน บริษัทหรือองค์กรภาคเอกชน ที่ทำ CSR (Corporate Social Responsibility) ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการดำเนินกิจกรรมที่ให้ความสำคัญและคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม นับเป็นการบูรณาการภารกิจไปสู่เป้าหมายที่กำหนด โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางและได้รับประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศของภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมในงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน และเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวง พม. ครบรอบ 18 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 3 ตุลาคม 2563 จึงได้จัดงานประกาศเกียรติคุณผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวง ครบรอบ 18 ปี และในโอกาสนี้ตนขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับผู้รับโล่ประกาศเกียรติคุณทุกคน ซึ่งการให้ความสำคัญ สนใจดูแล และสร้างแรงบันดาลใจที่จะดำเนินกิจการ เพื่อพัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง ขอให้ทุกคนได้ภาคภูมิใจในการทำความดี และขยายผลไปสู่การดำเนินธุรกิจการงานให้คงอยู่ต่อไป

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการขับเคลื่อนงานของกระทรวง พม. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ยังมุ่งเน้นการ “สร้างสังคมดี คนมีคุณภาพ” และเพิ่มความเข้มข้นที่มุ่งเน้นให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อเป็นบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน กระทรวง พม. จึงได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคกลาง สำหรับช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 รวมทั้ง เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมร่วมกับกระทรวง พม. มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาหนุนเสริมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมไปด้วยกัน เช่น การสมัครเป็น “อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.)” การบริจาคสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค รวมถึงการช่วยเฝ้าระวังปัญหาทางสังคมต่างๆ หากพบเห็นผู้ประสบสังคมก็สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือจะโทรศัพท์แจ้งมายังศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทุกคนจะช่วยกันลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมให้ลดน้อยลงได้ อันจะนำไปสู่การสร้างคนให้มีคุณภาพและสังคมที่ดีต่อไป
……………………………………………………………………….