18 ปี ทส.มุ่งยกระดับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อคนไทยทุกคน

วันที่ 2 ต.ค. 63 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วยนายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรมว.ทส. ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารมว.ทส. นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขา รมว.ทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. คณะผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ ทส. ร่วมพิธีสักการะพระพุทธสยัมภู พระประจำกระทรวง และศาลพระภูมิเจ้าที่ ณ บริเวณหน้าอาคารกรมควบคุมมลพิษ จากนั้น ร่วมประกอบพิธีสงฆ์ โดยมีพระสงฆ์จากวัดบวรนิเวศวิหาร เจริญพระพุทธมนต์ ณ ห้องประชุมศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช อาคารกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครบรอบ 18 ปี

นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้กล่าวขอบคุณคณะผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ ทุกท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุมานะ อดทน และตั้งใจทำงานเสมอมา นับตั้งแต่วันนี้ ถือเป็นการก้าวสู่ปีที่ 2 ในการทำงาน ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานต่อไปด้วยความเข้มข้น โดยยึดหลักการทำงานตามกฎหมายและนโยบายรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และน้อมนำแนวทางตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มาเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานของกระทรวงฯ มีการวางแผนในการดำเนินงาน ใช้งบประมาณให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด

ซึ่งบทบาทของกระทรวงฯ จากนี้ จะต้องทำให้สังคมเห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักให้ประชาชนร่วมมือในการดำเนินงาน และสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุด คือ เจ้าหน้าที่ทุกคน ที่จะต้องปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ มีการร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการทำงาน ไม่มีการแบ่งแยก แต่จับมือเดินไปด้วยกันอย่างมั่นคง เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้ประชาชนดำรงชีวิตอย่างมีความสุขภายใต้คุณภาพแวดล้อมที่ดี และทรัพยากรธรรมชาติของประเทศที่คงอยู่อย่างสมบูรณ์และยั่งยืน ตลอดระยะเวลากว่า 449 วัน การเดินทางตรวจเยี่ยม และติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ กว่า 47 จังหวัด อุทยานแห่งชาติ 28 แห่ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 5 แห่ง นั้น ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) และรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เพื่อฟื้นฟู อนุรักษ์ พัฒนา และแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

รวมไปถึง การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน อาทิ การจ้างงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID 19, การนำระบบการ จองล่วงหน้าผ่าน Application QueQ มาใช้ในการให้บริการอุทยานแห่งชาติและสวนสัตว์ทั่วประเทศ, แก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกเขตป่า หยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ด้วยกลไก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) และ คปป. จังหวัด, จัดที่ดินป่าสงวนให้ราษฎรทำกินภายใต้กลไก คทช, ปลูกต้นไม้ ตามโครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้เพื่อแผ่นดิน ดำเนินการปลูกป่าและป่าชายเลน, การเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ไฟป่าภาคเหนือ, การเตรียมความพร้อมของอนุบัญญัติ กฎหมายลำดับรอง กฎระเบียบและคู่มือการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. 2562, ติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ (PM10และ PM2.5) ดำเนินโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนาแหล่งน้ำ (น้ำผิวดิน) และระบบกระจายน้ำ ขุดเจาะบ่อบาดาลและก่อสร้างระบบกระจายน้ำ เป็นต้น

……………………………………………………