นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีสงฆ์เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันก่อตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ครบรอบ 44 ปี

นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีสงฆ์เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันก่อตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ครบรอบ 44 ปี ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 โดยมี นายวิทยา ยาม่วง ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด เข้าร่วมพิธีดังกล่าว ณ บริเวณหน้าอาคารสำนักงานใหญ่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

ในปีนี้ ขสมก. จัดงานวันคล้ายวันก่อตั้ง ครบรอบ 44 ปี ภายใต้แนวคิด “New BMTA New Normal” เพื่อให้สอดรับกับการให้บริการประชาชน และผู้โดยสารรถโดยสารประจำทางแบบวิถีใหม่ (New Normal) ดังนี้

1) การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ใช้บริการ

2) การล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

3) การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และ 4) การสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะภายในรถโดยสาร

นอกจากนี้ ขสมก. ได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ดังนี้ นำรถโดยสารมาฉีดพ่นด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น ราวจับ กริ่งสัญญาณ เบาะ และพนักพิง ก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน รวมทั้งติด QR Code แอปพลิเคชันไทยชนะภายในรถ เพื่อให้ผู้โดยสารสแกนเช็คอินเมื่อขึ้นรถ และเช็คเอาท์ก่อนลงจากรถ

ที่ผ่านมา ขสมก. ได้มีการพัฒนาคุณภาพการให้บริการรถโดยสารประจำทางอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใหม่แบบชานต่ำ (Low Floor) ที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) เพื่อรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท (เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ) จำนวน 489 คัน นำมาให้บริการประชาชน พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในรถ อาทิ กล้อง CCTV ระบบนำทาง GPS รวมทั้งการนำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E – ticket) มาใช้แทนการรับชำระค่าโดยสารด้วยเงินสด เป็นต้น

นอกจากนี้ ขสมก. จะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการและการบริหารจัดการองค์กรให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยพัฒนาเป็น ขสมก. โฉมใหม่ (New BMTA) โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของ ขสมก. ได้อย่างเป็นรูปธรรม

…………………………………………………………