รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563

ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,545 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 22 ราย)
– เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 22 ราย

เสียชีวิตรวม 59 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)

รักษาหายป่วยแล้ว 3,369 ราย (95.04%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 2 ราย)

รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 117 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 22 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State quarantine โดยทั้งหมดเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร (20 ราย) และชลบุรี (2 ราย) มีรายละเอียดดังนี้
– มาจากประเทศซูดานใต้ 16 ราย
– มาจากประเทศอินเดีย 4 ราย
– มาจากประเทศปากีสถาน 1 ราย
– มาจากประเทศฟิลิปปินส์ 1 ราย

สถานการณ์โลกในวันนี้
– ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 33.3 ล้านราย “โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 1 ล้านรายแล้ว” (คิดเป็นร้อยละ 3 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 24.6 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 74)
– อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 6 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 82,000 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดีย 5 ล้านรายแล้วเช่นกัน โดยคิดเป็นร้อยละ 82
– ออสเตรเลีย แนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่องจากค่าเฉลี่ยในรอบ 7 สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 400 ราย ลดลงเหลือ 22 ราย ทำให้เมืองเมลเบิร์นเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลง เช่น ยกเลิกเคอร์ฟิวและอนุญาตให้ประชาชนจำนวนหนึ่งกลับไปทำงานได้ เป็นต้น
– อันดับโลกของไทยดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 138 ของโลกและยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 133 ของโลก

สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
– ฟิลิปปินส์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม ทะลุ 300,000 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยอยู่ที่ 2,500 รายในรอบ 7 วันที่ผ่านมา
– อินโดนีเซีย แนวโน้มผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูง ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4,300 รายทำให้ยอดสะสมมากกว่า 270,000 รายแล้ว
– มาเลเซีย รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงถึง 150 ราย โดยพบคลัสเตอร์ใหม่ 2 กลุ่มในซาบาห์และอีก 1 กลุ่มในกัวลาลัมเปอร์
– พม่า ยอดสะสมขยับใกล้ 10,000 รายแล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยประมาณ 750 รายและมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 200 รายแล้ว ทั้งนี้ คณะกรรมการกลางระดับชาติว่าด้วยการป้องกันควบคุมและรักษาโรคโควิด-19 ได้ออกประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลากลางคืนในบางภูมิภาคและบางรัฐรวมถึงเขตย่างกุ้งแล้ว

………………………………………………………………

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)