วันที่ 21 กันยายน 2563 นายพิเชษฐ์ คุณาธรรมรักษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมสัมมนาการฝึกซ้อมแผนบริหารความต่อเนื่อง (Business Continuity Plan:BCP) ของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคมและสำนักงานรัฐมนตรี ประจำปี 2563 โดยมี นางสาวขนิษฐา พัวพันธ์พงษ์ ผู้อำนวยการกองกลาง กล่าวรายงาน ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมการสัมมนา ณ โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๕๐ บัญญัติว่า “เพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ส่วนราชการต้องปฏิบัติการใดนอกเหนือจากที่กำหนดในราชกฤษฎีกานี้ รวมทั้งกำหนดมาตรการอื่นเพิ่มเติมจากที่บัญญัติไว้ในมาตรา 48 และมาตรา 49 ก็ได้”
ดังนั้น อาศัยอำนาจตามความในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ก.พ.ร. จึงได้เสนอแนวทางการดำเนินการเตรียมความพร้อมต่อสภาวะวิกฤตและมาตรการที่เกี่ยวข้องต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดให้ทุกส่วนราชการทั้งระดับกรม จังหวัด สถาบันอุดมศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การมหาชน และรัฐวิสาหกิจ ดำเนินการเพื่อสร้างความพร้อมให้แก่หน่วยงานเมื่ออยู่ในสภาวะวิกฤต ซึ่งแผนบริหารความต่อเนื่อง หรือ (Business Continuity Plan : BCP) จะสามารถตอบสนองต่อการเกิดภาวะฉุกเฉินได้โดยไม่ต้องหยุดชะงักหรือมีอุปสรรค ซึ่งในการดำเนินงานจำเป็นจะต้องมีแผนการกู้คืนระบบหรือแผนการกู้คืนทรัพยากรบุคคลและกระบวนการทำงานเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานหรือสามารถให้บริการแก่ประชาชนต่อไปได้
การสัมมนาที่จัดขึ้นจะทำให้ได้รับความรู้ในเรื่องการจัดทำแผนการบริหารความต่อเนื่องเพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกหน่วยงานในสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคมและสำนักงานรัฐมนตรีจะต้องเรียนรู้และมีการวางแผนการปฏิบัติงานเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินในกรณีต่างๆอันอาจจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากปัจจุบัน ภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ทั้งจากการชุมนุม น้ำท่วม ไฟไหม้ โรคระบาด หากสำนักงานปลัดกระทรวงและสำนักงานรัฐมนตรีซึ่งเป็นหน่วยงานนโยบายเกิดภาวะฉุกเฉินแล้วไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ จะทำให้เกิดผลกระทบในการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานในสังกัด และก่อให้เกิดความเสียหายในภาพกว้างได้ในทันที
โดยหลักการเตรียมความพร้อมในภาวะวิกฤตตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 คือ การที่ให้ส่วนราชการสามารถ นำบทเรียนสถานการณ์ความรุนแรงสำคัญที่ผ่านมา มาปรับกระบวนการทำงานใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องการบริการประชาชน เพื่อให้มั่นใจว่าภารกิจหลักของทางราชการ หรืองานบริการประชาชนที่สำคัญสามารถดำเนินงานหรือให้บริการได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุดหยุดลงแม้ว่าจะประสบกับวิกฤต มีกรอบแนวทางการดำเนินการเตรียมพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 4 ขั้นตอน คือ
1) การสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับส่วนราชการ
2) การเตรียมความพร้อมของส่วนราชการในการจัดทำแผนรองรับการดำเนินภารกิจการให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan)
3) การซักซ้อมแผนและนำไปปฏิบัติได้จริง
4) การส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ในสภาวะวิกฤตโดยแนวคิดการบริหารความต่อเนื่องของหน่วยงานภาครัฐคือ การควบคุมดูแลและการป้องกันทรัพยากรที่สำคัญ ต่อการดำเนินงานหรือการให้บริการ เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่หน่วยงานต้องจัดทำแผนความต่อเนื่อง
………………………………………………….