วันที่ 19 กันยายน 2563 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการป.ป.ส.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) มุ่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในแต่ละช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายเยาวชนที่มีความเสี่ยงสูง (อายุ 15 -24 ปี) ประมาณ 8.7 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อลดโอกาสการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ด้วยการสร้างการรับรู้และสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดที่เหมาะสมกับช่วงวัยมาอย่างต่อเนื่อง
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มอีกว่า สำนักงาน ป.ป.ส. เล็งเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัวและเยาวชน โดยเฉพาะ “วัยรุ่น” ซึ่งถือเป็นวัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาในทุกมิติ เนื่องจากเป็นวัยที่มีพลังทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นวัยที่มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง ต้องการให้คนอื่นเข้าใจและเห็นคุณค่าของตนเอง ดังนั้น ด้วยสภาวะจิตใจที่เปราะบางตามธรรมชาติของวัย จะทำให้ขาดความอดทน และขาดความยับยั้งชั่งใจต่อสิ่งเร้ารอบตัว จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะมีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ได้ง่ายกว่าช่วงวัยอื่น หากวัยรุ่น ครอบครัว และคนรอบข้าง ไม่มีความเข้าใจกัน ก็จะเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง นำไปสู่การปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเกิดผลกระทบได้ในระยะยาว สำนักงาน ป.ป.ส. เห็นความสำคัญในประเด็นนี้ จึงได้จัดโครงการฯ และกิจกรรม รวมถึงการสร้างการรับรู้ในประเด็นต่าง ๆ มากมายที่เกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน ได้ร่วมทำกิจกรรมร่วมกัน โดยในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ได้จัดกิจกรรมดังนี้
1. โครงการเยาวชนสร้างสรรค์ พื้นที่ปลอดภัย “Save Zone, No New Face” (Yout Tubers) เป็นโครงการที่มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมบนโลกออนไลน์ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย จัดขึ้นเพื่อเปิดเวทีการเรียนรู้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ และสร้างแหล่งการเรียนรู้ใหม่ให้แก่เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม Booth Camp Online เพื่อพัฒนาฝีมือและความสามารถ โดยมีวิทยากรมืออาชีพชื่อดังมาให้ความรู้ พร้อมประกวดคลิปสั้นเชิงสร้างสรรค์และชิงเงินรางวัล ซึ่งกิจกรรมนี้ เป็นการกระตุ้นและส่งเสริมความสามารถของเยาวชนไทย และการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยมีเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม และส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก ซึ่งตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการที่ผ่านมา พบว่าพลังของเยาวชนคนรุ่นใหม่มีความสามารถ กล้าคิด กล้าทำ และกล้าแสดงออก ถือเป็นการตอบรับนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลในการสร้างรั้วป้องกันเด็กและเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติจากปัญหายาเสพติด
2.โครงการเสวนา “รู้เขา รู้เรา ไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครชนะ” เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องในการดูแลกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการดูแลแก้ไข ตลอดจนเสริมสร้างให้เกิดเครือข่ายพ่อแม่ ผู้ปกครอง ในการนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในครอบครัว และสื่อสารสร้างการรับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งจากการจัดกิจกรรมเสวนา จำนวน 3 ครั้งที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เชิญนักจิตแพทย์ที่มีชื่อเสียงมาให้ความรู้เกี่ยวกับวัยรุ่นและแลกเปลี่ยนทัศนคติ มุมมองของวัยรุ่นในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งพบว่า มีพ่อแม่ ผู้ปกครอง และเยาวชน ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก สำนักงาน ป.ป.ส. คาดหวังว่า การจัดกิจกรรมเสวนานี้ จะช่วยให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้รับความรู้และปรับมุมมองทัศนคติต่อการเลี้ยงดูวัยรุ่นได้อย่างถูกต้อง และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในครอบครัวได้อย่างมีคุณภาพ
3. กิจกรรมเสวนา “ONCB Talk 2020″ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ใน ”เรื่องที่อยากบอกให้รู้“ โดย สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เชิญวิทยากรจากหลายสาขา มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวในแง่มุมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมกับผู้มีอิทธิพลทางสังคม ผู้ผลิตสื่อ และสื่อมวลชน โดยวิทยากรได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ เปิดแง่มุมใหม่ๆ เกี่ยวกับการทำงานยาเสพติด, เกี่ยวกับอดีตที่เคยหลงผิด โดยเห็นว่าทุกเรื่องราวในชีวิต ไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหน อยู่ที่ใจที่จะก้าวข้ามไปให้ได้, และการบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์จากเด็กธรรมดา ที่สร้างความสุขให้ตัวเอง จนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. หวังว่ากิจกรรมเสวนาที่ผ่านมาจะขยายผลให้ประชาชนได้เห็นแง่มุมของการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมากขึ้น เพราะการปราบปรามไม่ใช่หนทางเดียวในการแก้ปัญหาและการป้องกัน รวมถึงการมีส่วนร่วมในการบำบัดฟื้นฟูและให้โอกาสทางสังคมเป็นหนทางสำคัญ และต้องอาศัยความเข้าใจ และความร่วมมือจากประชาชนทุกคนในสังคม
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จะได้นำผลตอบรับจากการดำเนินงานโครงการฯ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินกิจกรรมในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง และเพื่อนำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับมาตรการต่าง ๆ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพราะนอกจากการดำเนินงานตามมาตรการปราบปรามยาเสพติดแล้ว สิ่งที่สำคัญและเป็นหัวใจหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติด คือ การป้องกันยาเสพติด รวมถึงการมีส่วนร่วมในการบำบัดฟื้นฟูและให้โอกาสทางสังคมเป็นหนทางสำคัญ และต้องอาศัยความเข้าใจ และความร่วมมือจากประชาชนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง เพราะปัญหายาเสพติดจะไม่มีทางเกิดขึ้น หากมีการป้องกันที่ดี รวมไปถึงมาตรการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดที่มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสังคมตามมา ทั้งนี้ ประชาชน สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันเฝ้าระวัง สอดส่องดูแลให้ตนเอง ครอบครัว สังคม ห่างไกลจากยาเสพติดได้โดย หากพบเห็นเบาะแสยาเสพติด แจ้งสายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ได้ตลอด 24 ชม.
…………………
Save Zone, No New Face พื้นที่ปลอดภัย ไม่มีคนหน้าใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่ ไม่ใช้ยาเสพติด
ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย “สมัครใจเข้าบำบัด ไม่เสียประวัติ ไม่มีความผิด”
แจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386