นางสาวกอบกุล โมทนา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ร่วมการประชุมหัวหน้าเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการขนส่งระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 18

นางสาวกอบกุล โมทนา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ร่วมการประชุมหัวหน้าเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการขนส่งระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 18 (ASEAN-Japan STOM Leaders Conference) ด้วยระบบการประชุมทางไกล (VDO Conference) ในวันที่ 15 กันยายน 2563 โดยกระทรวงที่ดินโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ หัวหน้าเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการขนส่งของญี่ปุ่นและบรูไนดารุสซาลาม ทำหน้าที่ประธานร่วมการประชุมฯ และมีหัวหน้าเจ้าหน้าที่อาวุโสของอาเซียน ญี่ปุ่น สำนักเลขาธิการอาเซียน นายสมชาย สุมนัสขจรกุล รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และการท่าเรือแห่งประเทศไทย เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องราชดำเนิน อาคารสโมสรและหอประชุมกระทรวงคมนาคม

สำหรับการประชุมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) แลกเปลี่ยนมาตรการด้านการขนส่งของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ดำเนินการในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการขนส่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและป้องกันเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต (IoT) และหุ่นยนต์ เป็นต้น 2) รายงานความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ภายใต้แผนงานหุ้นส่วนความร่วมมือด้านการขนส่งอาเซียน-ญี่ปุ่น (ASEAN-Japan Transport Partnership: AJTP) ปี 2562-2563 3) พิจารณาเอกสารผลลัพธ์และข้อริเริ่มใหม่เพื่อรับรองในการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน-ญี่ปุ่น (ASEAN-Japan Transport Ministers Meeting : ATM+Japan) ครั้งที่ 18 ในเดือนพฤศจิกายน 2563 และ 4) เตรียมการสำหรับการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการขนส่งระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น (STOM+Japan) ครั้งที่ 19 และการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน-ญี่ปุ่น (ATM+Japan) ครั้งที่ 18

ในการนี้ นางสาวกอบกุล โมทนา ได้นำเสนอให้ที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานของประเทศไทย โดยเฉพาะการดำเนินมาตรการด้านการขนส่งและสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 อาทิ การเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัย การคัดกรองอุณหภูมิร่างกายแบบไร้สัมผัส การนำเทคโนโลยีมาใช้สำหรับการติดตามตัวบุคคลโดยการพัฒนาแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” รวมถึงการดำเนินโครงการระบบตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติและแอปพลิเคชั่น “DLT Vehicle Tax” สำหรับชำระภาษีรถผ่านมือถือของกรมการขนส่งทางบก เป็นต้น สำหรับมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือทางการเงินโดยออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ SME มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศภายใต้โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตังค์”

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้เน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือด้านการขนส่งระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องต่อไป