วันที่ 10 ก.ย. 63 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) รับมอบข้อเสนอเชิงนโยบาย ประจำปี 2563 จากที่ประชุมระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปพิจารณาแก้ไขปัญหาตาม พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551
โดยปีนี้ มีข้อเสนอแนะและแก้ไขปัญหาหลายด้าน เช่น ส่งเสริมและอนุรักษ์วิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เสนอทบทวนเมืองอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา การชดเชย จัดหาที่อยู่อาศัยให้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากรถไฟรางคู่ที่ จ.ขอนแก่น ปัญหาโรงงานขยะอุตสากรรมในภาคตะวันออก เป็นต้น
โดยมีผู้แทนสภาองค์กรชุมชนตำบลทั่วประเทศ รวมทั้งภาคีเครือข่าย และภาคประชาสังคม เข้าร่วมงานประมาณ 450 คน อีกทั้งเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การสนับสนุนเสริมสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชน” ระหว่างสภาองค์กรชุมชนกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังเป็นประธานในพิธีมอบโล่แก่องค์กรดีเด่น ประจำปี 2563 จำนวน 15 รางวัล ให้กับสภาองค์กรชุมชนตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล/เทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนจังหวัด ณ ห้องประชุมไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ชั้น 1 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เขตบางกะปิ กทม.
นายจุติ กล่าวว่า ด้วยสภาองค์กรชุมชนจัดตั้งขึ้นตาม “พระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ.2551” โดยมีบทบาทและภารกิจสำคัญในการส่งเสริมให้ชุมชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาตำบลในด้านต่างๆ ทั้งสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม การเสนอแนะปัญหา แนวทางแก้ไข และความต้องการของประชาชนที่เกี่ยวกับการจัดทําบริการสาธารณะของหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
โดยได้กำหนดให้มีการประชุมสภาฯ ในระดับตำบลอย่างน้อยปีละ 4 ครั้ง และประชุมในระดับชาติอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง สำหรับปี 2563 ที่ประชุมระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบลมีข้อเสนอเชิงนโยบาย ตามมาตรา 32 (2) “ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และกฎหมาย รวมทั้งจัดการบริการสาธารณะของหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลต่อพื้นที่มากกว่าหนึ่งจังหวัด ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม” ดังนี้
1. สนับสนุนตำบลเข้มแข็งและพื้นที่จัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วม
2. ส่งเสริมฟื้นฟูอนุรักษ์วิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษ และ 3.สนับสนุนการจัดการปัญหาไฟป่าและหมอกควัน และข้อเสนอเชิงนโยบาย ตามมาตรา 32 (3) “สรุปปัญหาที่ประชาชนในจังหวัดต่างๆ ประสบและข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไข เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการ” ได้แก่ 1. จะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต 2. เขตพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา และ
3. ผลกระทบจากโรงงานประกอบกิจการขยะ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การสนับสนุนเสริมสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชน” ระหว่างสภาองค์กรชุมชนกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10 หน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชนฯ ทั่วประเทศ (ปัจจุบัน มีการจัดตั้งแล้ว 7,825 แห่ง) ให้สามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมลงนามได้อย่างกว้างขวาง ประกอบด้วย
1. สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (สบนร.)
2. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
3. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
4. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
5. สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช.
6. กองดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
7. สำนักประสานสนับสนุนการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาวะรองรับสังคมสูงวัย (สป.สว.)
8. ศูนย์วนศาสตร์เพื่อคนกับป่า (RECOFTC)
9. มูลนิธิการพัฒนาที่ยั่งยืน ภาคเหนือ และ
10. สภาเกษตรกรแห่งชาติ
……………………………………………………………………..