กระทรวงคมนาคม รายงานสถานการณ์ผลการอำนวยความสะดวก ปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 4 – 7 กันยายน 2563 โดยข้อมูลสะสม เมื่อวันที่ 3 – 5 กันยายน 2563 สามารถจัดบริการขนส่งสาธารณะได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยมีผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะกว่า 6.25 ล้านคน ต่ำกว่าประมาณการ 10.24% มีปริมาณการจราจรเข้า – ออก กรุงเทพฯ 8.6 ล้านคัน ในขณะที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม จำนวน 229 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 33 คน บาดเจ็บ 199 คน สาเหตุหลักของอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชน รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องระหว่างวันที่ 4 – 7 กันยายน 2563 โดยข้อมูลสะสมเมื่อวันที่ 3 – 5 กันยายน 2563 พบว่า มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 6,254,162 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 10.24% มีปริมาณการจราจรเข้า – ออกกรุงเทพฯ จำนวน 8,620,532 คัน สูงกว่าประมาณการ 36.47% โดยพบว่าส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 8,067,882 คัน ส่วนสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 3 – 5 กันยายน 2563 พบว่า มีจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 229 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 33 คน บาดเจ็บ 199 คน บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นทางตรง 82.84% สาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด โดยเกิดที่กรุงเทพฯ มากที่สุด จำนวน 20 ครั้ง สำหรับอุบัติเหตุที่มีรถจักรยานยนต์เกี่ยวข้อง จำนวน 59 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 16 คน บาดเจ็บ 69 คน เกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี มากที่สุด 6 ครั้ง นอกจากนี้มีอุบัติเหตุโดยรถโดยสารสารธารณะ จำนวน 2 ครั้ง ทั้งนี้ ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุในบริการขนส่งสาธารณะทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ
สำหรับการเตรียมความพร้อมของระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ในวันที่ 3 – 5 กันยายน 2563 สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง อย่างไรก็ดีพบว่ามีจำนวนผู้ใช้บริการเดินทางด้วยรถ บขส. ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ในการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจความพร้อม 121 แห่ง จำนวน 37,041 คัน พบข้อบกพร่อง 20 คัน และได้สั่งให้แก้ไขแล้ว ส่วนความพร้อมของท่าเรือ/แพ พบมีเรือโดยสารไม่พร้อมใช้งาน จำนวน 1 ลำ และได้สั่งปรับปรุงแล้ว ด้านการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่รถไฟ รถไฟฟ้า และผู้ประจำเรือไม่พบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด แต่อย่างใด
ปลัดกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การเดินทางและดำเนินการเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในวันที่ 7 กันยายน 2563 ที่ประชาชนจะเดินทางกลับจากทุกภูมิภาค และจะมีปริมาณการเดินทางที่สูงขึ้น โดยเน้นย้ำให้จัดระเบียบการจราจร ใช้เทคโนโลยีกล้อง CCTV และอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในการสำรวจสภาพการจราจรบนเส้นทางหลักสำคัญ เพื่อควบคุมและสั่งการให้การบริหารจัดการจราจรมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ให้จัดเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเพียงพอตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการให้บริการรถโดยสารสาธารณะทั้งรถโดยสาร รถไฟ/รถไฟฟ้า เรือ เครื่องบินต้องเคร่งครัดในมาตรฐานความปลอดภัยทั้งพื้นที่สถานี ยานพาหนะโดยสาร และผู้ปฏิบัติหน้าที่ ต้องไม่เกิดการล่าช้าและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง พร้อมทั้งรักษามาตรการด้านสาธารณะสุขเพื่อเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถประสานเจ้าหน้าที่ด้านการเดินทาง ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุและรับเรื่องข้อร้องเรียนต่าง ๆ ได้ที่ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356 ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ โทร. 1584 ศูนย์บัญชาการกรมทางหลวง โทร. 1586 ศูนย์ความปลอดภัยกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146 ศูนย์ควบคุมทางพิเศษบูรพาวิถี การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543 ศูนย์รัชดา ขสมก. โทร. 1348 และศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ รฟท. โทร. 1690
กระทรวงคมนาคม