กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ร่วมมือกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดตัวเรือไฟฟ้าลำแรก ในแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้งาน “Modern PHENOMENON OF MASS TRANSIT” : ปรากฎการณ์ใหม่การเดินทางขนส่งสาธารณะ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน ในการเดินทางรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ที่ไร้มลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเชื่อมโยงถึงระบบโครงข่าย “ เรือ รถ ราง” ในวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2563 ณ ท่าเทียบเรือ กรมเจ้าท่า เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ โดยมีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานฯ
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและให้บริการคมนาคมขนส่ง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตลอดจนความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเป็นไป ตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ สามารถรองรับการขนส่งและการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี โดยที่ผ่านมากรมเจ้าท่า ได้พัฒนาต่อยอดแผนยุทธศาสตร์ชาติ ของกระทรวงคมนาคมและรัฐบาล เห็นได้จากการพัฒนาท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาให้มีความทันสมัยในการให้บริการมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง เพิ่มศักยภาพเรือโดยสาร ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน สร้างวิถีชีวิตการเดินทางรูปแบบใหม่ ที่ไร้มลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยลด PM 2.5 นับว่าเป็นการเชื่อมโยงระบบโครงข่ายการเดินทางทางน้ำร่วมกับ ระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือฯ ในครั้งจึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ที่จะได้ร่วมกันสร้างการเดินทางมิติใหม่ในยุค New Normal ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเชื่อมต่อการเดินทางระบบไฟฟ้าอย่างครบวงจร ทั้งระบบ เรือ รถ ราง ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำอีกด้วย นับเป็นการสร้างความสะดวก สบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับพี่น้องประชาชนที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ในการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมเจ้าท่าได้ดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมการขนส่งทางน้ำภายใต้นโยบายของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมเจ้าท่าได้พัฒนาในหลายด้าน อาทิ พัฒนาท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทางทางน้ำ เพื่อยกระดับศักยภาพด้านการขนส่งทางน้ำ พร้อมปรับปรุงท่าเรือโดยรอบพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีความทันสมัยต่อการให้บริการมากยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ อีกทั้ง กรมฯ ยังเป็นหน่วยงานภาครัฐ ในการกำกับมาตรฐานและทิศทางการพัฒนา เรือไฟฟ้าในประเทศ ตลอดจนให้คำแนะนำแก่ภาคเอกชน เพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีการประกอบสมัยใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของทางราชการ ร่วมพัฒนาถ่ายทอดเทคโนโลยีของระบบเรือไฟฟ้า และทบทวนหลักเกณฑ์ข้อกำหนด เงื่อนไข กฎหมาย ในการตรวจเรือไฟฟ้าให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะนำมาใช้ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อประชาชน
อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมเจ้าท่า ได้ร่วมมือกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่ได้ร่วมกันวิจัย ศึกษาและพัฒนาเรือไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมโยงระบบการขนส่งทางน้ำอย่างไร้รอยต่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน ในการเดินทางรูปแบบใหม่วิถีชีวิต (New Normal) ที่ไร้มลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงถึงระบบโครงข่าย “เรือ รถ ราง” ได้อย่างลงตัว นับเป็นการยกระดับมาตรฐานการขนส่งทางน้ำให้เป็นระบบเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรม เพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในการเข้าถึงบริการสาธารณะต่าง ๆ ในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพต่อไป
ทางด้าน นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวว่า บริษัท มีแผนงานที่จะนำเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนมาใช้ในยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายประเภทให้มากที่สุด เนื่องจากจะช่วยประหยัดพลังงานและลดมลภาวะได้เป็นอย่างดี จึงได้ลงทุนออกแบบและผลิตเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าที่เป็นฝีมือของคนไทย 100% ต่อเนื่องด้วยรถบัสโดยสารไฟฟ้า โดยนำเทคโนโลยีการชาร์จ DC Fast Charger ของ EA Anywhere ที่ทันสมัยที่สุดของกลุ่ม EA ที่สามารถชาร์จเร็วทั้งเรือและรถบัสไฟฟ้าได้ภายใน 15 – 20 นาที มาสร้างระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย เข้าสู่การเดินทางที่ประหยัดพลังงานและไร้มลพิษ
“เรามีความพร้อมในการให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าระบบขนส่งมวลชน ทั้งในส่วนของเรือพลังงานไฟฟ้า และรถบัสโดยสารไฟฟ้า โดยปัจจุบันเรือพลังงานไฟฟ้า MINE Smart Ferry ลำแรกสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยเป็นเรือโดยสารไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุด และได้รับการจดทะเบียนเป็นเรือพลังงานไฟฟ้าเป็นลำแรกของประเทศเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการสร้างเรือที่เหลือโดยมีงบประมาณลงทุนทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้เรายังได้นำรถบัสโดยสารไฟฟ้ามาทดลองให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2562 แล้ว และกำลังจะเริ่มผลิตจริงในต้นปีหน้า โดยจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของกลุ่ม EA คือการมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่เป็นของเราเอง และการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องอัดประจุไฟฟ้า DC Fast Charger ของ EA Anywhere ให้สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ภายในเวลาเพียง 15-20 นาที เท่านั้น ทำให้รองรับการใช้งานได้ตรงจุด ประหยัดค่าพลังงาน ประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งมีความคล่องตัวในการขยายจุดติดตั้งทั่วประเทศ โดยโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทย่อย ที่ชื่อบริษัท ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด นั้น ปัจจุบันอาคารโรงงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรและทดสอบการผลิต อีกทั้งอยู่ระหว่างสร้างโรงงานผลิตรถบัสไฟฟ้าอีกด้วย โดยมั่นใจว่าจากปีปลายนี้เป็นต้นไป จะเป็นโอกาสที่ดีที่คนไทยจะได้มีประสบการณ์ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ และได้เห็นถึงข้อดีของยานยนต์ไฟฟ้า คุณภาพ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นทางเลือกในการใช้ยานพาหนะเดินทางที่ประหยัดพลังงาน ค่าโดยสารไม่แพง สะอาด ปลอดภัย และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี” นายอมรฯ กล่าว
…………………………………………………………………