‘บิ๊กอู๋’ จับมือภาคเอกชน ดูแลลูกแรงงานต่างด้าวทัดเทียมแรงงานไทย

วันที่ 10 กันยายน 2561  พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบป้ายส่วนต่อเติมอาคารเรียนชั้นล่าง โรงเรียนวัดศิริมงคล อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบในการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนไร้สัญชาติไทย พร้อมย้ำนโยบายประชารัฐ เปิดโอกาสให้เรียนร่วมกับเด็กไทย สร้างความเสมอภาคเท่าเทียม ทั่วถึงและเป็นธรรมในสังคม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของแรงงาน

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้ภาคเอกชนซึ่งเป็นนายจ้างหรือผู้ประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวให้การดูแลลูกจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างเท่าเทียมกับแรงงานไทย ซึ่งการดูแลลูกๆ ของแรงงานต่างด้าว โดยให้พวกเขาได้มีโอกาสเข้าเรียนในโรงเรียนของไทยร่วมกับเด็กไทยนั้น ก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แรงงานต่างด้าวและครอบครัว เป็นนโยบายประชารัฐ สำหรับการมอบป้ายส่วนต่อเติมห้องเรียนในวันนี้ เป็น “โครงการปันฝัน ปั้นยิ้ม” ซึ่งบริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมกับเครื่องสำอาง “มิสทีน” ร่วมให้ความอนุเคราะห์สนับสนุนในการก่อสร้างส่วนต่อเติมอาคารเรียนชั้นล่าง จำนวน 3 ห้องเรียน ณ โรงเรียนวัดศิริมงคล อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบในการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนไร้สัญชาติไทย

โรงเรียนวัดศิริมงคล เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล-ประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 150 คน เป็นเด็กไทย 15 คน ไม่มีสัญชาติไทย 135 คน ข้าราชการครู 9 คน ครูอัตราจ้าง 3 คน ครูพี่เลี้ยงเด็กเมียนมา 1 คน และลูกจ้าง 1 คน เป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนที่ไม่มีทะเบียนราษฎร์หรือสัญชาติไทยเข้าเรียนร่วมกับเด็กไทย เด็กส่วนใหญ่มีสัญชาติเมียนมา มอญ กะเหรี่ยง  ไทยใหญ่ ที่ติดตามผู้ปกครองมาใช้แรงงานในภาคเกษตรหรือเรียกว่าเด็กชนเผ่า (เด็กชายขอบ) และอีกกลุ่มเป็นกลุ่มของลูกแรงงานต่างด้าว ซึ่งกลุ่มนี้มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและใช้ภาษาชาติพันธุ์ในการศึกษา ไม่มีพื้นฐานทางภาษาไทย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านภาษาไทยให้กับเด็กก่อนที่จะเข้าไปเรียนร่วมกับเด็กไทยในชั้นปกติด้วยหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการเช่นเดียวกับโรงเรียนทั่วไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นแนวทาง “ประชารัฐ” ที่ภาครัฐได้ร่วมกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในการดูแลครอบครัวแรงงานต่างด้าว ให้ได้รับการคุ้มครอง การปฏิบัติเช่นเดียวกับคนไทย เพื่อพวกเขาจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุขตลอดระยะเวลาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย

รมว.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสมุทรสาคร มีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับใบอนุญาตทำงาน จำนวน 277,898 คน แบ่งเป็น กลุ่ม BOI จำนวน 123 คน กลุ่มทั่วไป จำนวน 3,419 คน ชนกลุ่มน้อย จำนวน 5,794 คน กลุ่ม MOU จำนวน 80,855 คน กลุ่ม พิสูจน์สัญชาติ จำนวน 120,553 คน กลุ่มตามมติ ครม. 16 มกราคม 2561 ที่ได้รับการปรับปรุงทะเบียนประวัติ และตรวจลงตรา (VISA) และขออนุญาตทำงานถึง 31 มีนาคม 2561 ณ ศูนย์ OSS จำนวน 67,154 คน ส่วนกลุ่มตามมาตรา 83 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ ที่กำลังดำเนินการขยายระยะเวลาการทำงานออกไปอีก 2 ปี มีจำนวน 282 ราย ขณะนี้มาดำเนินการแล้ว 175 ราย และต้องขอขอบคุณภาคเอกชนเจ้าของสถานประกอบการที่ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของลูกจ้างต่างด้าว  ซึ่งจะเป็นต้นแบบตัวอย่างที่ดีให้กับภาคเอกชนอื่นๆ ต่อไป