การให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดือนมิถุนายน 2563

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล และ พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวก เพื่อลดต้นทุน ลดเวลา และลดการใช้กระดาษ โดยพัฒนางานบริการทุกกระบวนการของกรมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ใช้บริการยื่นขอรับบริการได้ทุกที่ ทุกเวลาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และประกาศกรมเรื่องการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา

การบริการหนังสือรับรองข้อมูลนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์และผลักดันการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ยกระดับการเป็นหน่วยงานรัฐบาลดิจิทัล โดยการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) มาให้บริการ ซึ่งการบริการ e-Service เป็นการบริการขอหนังสือรับรองผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยขอรับข้อมูลได้ผ่านช่องทาง Walk in EMS Delivery และการออกหนังสือรับรองรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Certificate File) มีจำนวนการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวน 227,584 ราย คิดเป็นร้อยละ 31 ของการให้บริการผ่านระบบ e-Service และรองรับการให้บริการสู่การบริการหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติและสมาคมการค้า หนังสือรับรองภาษาอังกฤษ

ทั้งนี้ การขอรับบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากผ่านทาง www.dbd.go.th แล้ว สามารถขอรับบริการผ่านทาง Application DBD e- Service ได้ทั้งระบบ Android และ IOS
การให้บริการขอหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคล ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ส่วนกลาง) และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 ให้ขอรับบริการได้เฉพาะทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Service) ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (www.dbd.go.th) เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน ปรับลดอัตราค่าบริการหนังสือรับรอง รับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านธนาคาร (e-Certificate) จากอัตราเดิม หนังสือรับรองนิติบุคคล ฉบับละ 150 บาท เป็น ฉบับละ 100 บาท รับรองสำเนาเอกสารทะเบียน งบการเงิน/บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น จาก 1-5 หน้าแรก 100 บาท หน้าถัดไปหน้าละ 20 บาท เป็น หน้าละ 20 บาท โดยไม่กำหนดอัตราเริ่มต้น โดยธนาคารกรุงไทย ปรับลดเป็นระยะเวลา 8 เดือน ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 สิงหาคม 2563 มีสาขาที่พร้อมให้บริการทั้งสิ้น 1,132 สาขาทั่วประเทศ

DBD e – Filing การนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
การนำส่งงบการเงินของนิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดปี 2562 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีนิติบุคคลนำส่งงบการเงินแล้ว จำนวน 362,607 ราย คิดเป็น 50% ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงิน โดยนำส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) จำนวน 355,424 ราย คิดเป็น 98% และนำส่งในรูปแบบกระดาษ จำนวน 7,183 ราย คิดเป็น 2% ทั้งนี้การนำส่งงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นสามารถนำส่งได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถตรวจสอบข้อมูลงบการเงินผ่าน DBD Data Warehouse และ DBD e – Service ผ่าน Application ได้อย่างรวดเร็ว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิค 19 เพื่อให้การนำส่งงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมฯ ได้มีมาตรการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาด ดังนี้

-ให้บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด สมาคมการค้า และหอการค้า รายใดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิค 19 จนทำให้เกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถจัดประชุมหรือจัดประชุมล่าช้าเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และเมื่อได้ดำเนินการจัดประชุมแล้ว ให้มีหนังสือชี้แจงเหตุผลยื่นต่อนายทะเบียนเป็นรายกรณีไป

-ให้ขยายระยะเวลาการยื่นงบการเงินของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีที่เป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนิติบุคคลที่ตั้งตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย และกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร ที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 ให้ยื่นงบการเงินได้ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563

-ให้การยื่นงบการเงินของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัด นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย และกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร การยื่นสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด การยื่นสำเนารายงานประจำปี และสำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมหาชนจำกัด ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) เพียงช่องทางเดียว

ทั้งนี้ กรมจึงขอประชาสัมพันธ์ให้นิติบุคคลเตรียมความพร้อมการดาว์นโหลดไฟล์ Excel บอจ.5เพื่อกรอกบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นและดาวน์โหลดไฟล์งบการเงิน Excel เวอร์ชั่น 2 เพื่อกรอกงบการเงินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

โดยศึกษาวิธีการใช้งานได้ที่ www.dbd.go.th เลือก “บริการออนไลน์”“ระบบนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์’ (DBD e-Filing)” โดยดาวน์โหลดวีดิทัศน์ไฟล์งบการเงิน Excel เวอร์ชั่น 2 และวิธีกรอกไฟล์ Excel บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น เพื่อนำส่งได้อย่างถูกต้องครบถ้วน

e-Certificate บริการระบบหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินการพัฒนาต่อยอดระบบการให้บริการหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร (e-Certificate) ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2555 และผ่านการรับรองระบบพิมพ์ออกฯ จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) จึงเป็นนวัตกรรมที่สามารถบริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด ทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการ ณ สาขาธนาคารใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการได้ รวมทั้งสิ้น 10 ธนาคาร จำนวน 3,837 สาขา

e-Secured จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร ผ่าน Web Application และ Web Service แบบ Host to Host และชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และออกใบเสร็จรับเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) โดยเจ้าพนักงานทะเบียนลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature)

รวมถึงสามารถตรวจค้นข้อมูลหลักประกันทางธุรกิจเบื้องต้นผ่านเว็บไซต์ www.dbd.go.th หรือผ่านระบบ mobile application (iosและ android) บนสมาร์ทโฟน โดยตั้งแต่ 4 กรกฎาคม 2559 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 529,603 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 8,308,483 ล้านบาท โดยมีการนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและใช้ประกอบธุรกิจมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สิน

สำหรับเดือนมิถุนายน 2563 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 6,581 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 82,311 ล้านบาท ทั้งนี้ทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ มากที่สุด ได้แก่ สิทธิเรียกร้อง เช่น บัญชีเงินฝาก ลูกหนี้การค้า สิทธิการเช่า คิดเป็น 65.37% (มูลค่า 53,805 ล้านบาท)

รองลงมาคือ สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น เครื่องจักร สินค้าคงคลัง คิดเป็น 34.62% (มูลค่า 28,494 ล้านบาท) กิจการ มีการจดทะเบียน คิดเป็น 0.01% (มูลค่า 12 ล้านบาท) และไม้ยืนต้น คิดเป็น 0.001% (มูลค่า 597,837 บาท) และมีผู้รับหลักประกัน รวมจำนวนทั้งสิ้น 257 ราย

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ได้ดำเนินกิจกรรมแผนปฏิบัติงานขับเคลื่อนการใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ณ จังหวัดอุทัยธานี เพื่อสร้างการรับรู้ในการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันได้ โดยมีผู้นำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน จำนวน 2 ราย จำนวนต้นไม้ 30 ต้น เป็นไม้ประเภทยาง ไม้แดง ไม้ประดู่ ฯลฯ วงเงินค้ำประกัน 520,437.09 บาท

e-Registration การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์
การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2560 – 30 มิถุนายน 2563 มีการยืนยันการใช้งาน (Activate) จำนวน 62,749 ราย รับจดทะเบียน 27,850 ราย ซึ่งกรมได้มีการเตรียมการพัฒนาระบบให้อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น

ทั้งด้านการยืนยันตัวตนนิติบุคคลและการใช้ระบบงาน รวมถึงการเชื่อมโยงเพื่อสร้างความพร้อมในการดำเนินธุรกิจให้แก่ SME ทั้งด้านการเงินและซอฟแวร์ รวมทั้งการให้บริการสำเนาเอกสารทะเบียนนิติบุคคลรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคลที่จดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration

DBD Connect เชื่อมระบบบัญชีสู่การยื่นงบการเงินออนไลน์ (DBD e-Filing)
กรมฯ ร่วมกับผู้ผลิตซอฟแวร์บัญชีชั้นนำของประเทศ จำนวน 16 ราย (20 โปรแกรม) พัฒนาการเชื่อมโยงซอฟต์แวร์บัญชีกับระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) แบบอัตโนมัติ ผ่านระบบ DBD Connect อำนวยความสะดวกการจัดทำบัญชีและงบการเงินสำหรับนักบัญชีให้สามารถนำส่งงบการเงิน ในรูปแบบ XBRL ที่เชื่อมโยงข้อมูลทางบัญชีพร้อมนำส่งงบการเงินผ่าน DBD e-Filing ได้โดยตรง และไม่ต้องคีย์ข้อมูลงบการเงินซ้ำ

การบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจร (Total Solution for SMEs) และ e-Accounting for SMEs
Total Solution for SMEs เป็นการขับเคลื่อน SMEs ด้วยนวัตกรรม โดยส่งเสริมให้ธุรกิจเข้าถึงเทคโนโลยีในการบริหารจัดการธุรกิจที่ครบวงจรได้โดยง่าย เปลี่ยน Traditional SMEs เป็น Smart SMEs ซึ่งกรมได้รวบรวมโปรแกรมด้านการบริหารจัดการทั้ง 3 ภาคส่วนไว้ด้วยกันคือ โปรแกรมสำนักงาน (Office) โปรแกรมหน้าร้าน (POS) โปรแกรมบัญชี online (Cloud Accounting) ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 25 โปรแกรม

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้แจกฟรี “โปรแกรม e-Accounting for SMEs” ซึ่งเป็นโปรแกรมหน้าร้าน (POS) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการค้าขาย เช่น มี Scanner เพื่อซื้อขายสินค้าในตัว , มีฐานข้อมูลของสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ เป็นต้น โดยร้านค้าสามารถสมัครขอใช้งานโปรแกรม e-Accounting for SMEs ได้ผ่านทางโครงการ Total Solution for SMEs หรือดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store ในระบบ Android

DBD Data Warehouse
กรมได้พัฒนาระบบสารสนเทศให้มีความสมบูรณ์หลากหลาย และสามารถจัดทำผลวิเคราะห์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลธุรกิจ ประกอบด้วยข้อมูลนิติบุคคล ข้อมูลและวิเคราะห์งบการเงิน ข้อมูลซัพพลายเออร์ลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ ข้อมูลโอกาสทางธุรกิจ ข้อมูลการลงทุนจากต่างชาติในนิติบุคคลไทย

รวมทั้งข้อมูลสถิติการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล พร้อมทั้งนำข้อมูลธุรกิจไปสนับสนุน การตัดสินใจในการประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยในปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งสิ้นจำนวน 4,204,941 ครั้ง

……………………………………..
ที่มา : กองข้อมูลธุรกิจ

22 กรกฎาคม 2563