กรมคุมประพฤติ โดยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุทัยธานี ขับเคลื่อน MOU ทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับ ส่งผู้ต้องโทษปรับช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง
วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนมาตรการทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับ ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับในศาลอาญา” ว่า กรมคุมประพฤติ ได้มีการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว โดยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุทัยธานี ได้นำผู้ถูกคุมความประพฤติและผู้ต้องโทษปรับทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับ ด้วยการเก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณบ้าน เก็บขยะ จัดเก็บสิ่งของ การดูแลความสะอาดบริเวณที่นอน ตลอดจนดูแลผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งติดตั้งสายไฟฟ้า ซ่อมและติดตั้งปลั๊กไฟ และติดตั้งหลอดไฟ LED ภายในบ้านพักของผู้ป่วยรายดังกล่าว ณ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี กิจกรรมในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุทัยธานี กับศูนย์ซ่อมวีลแชร์ อุทัยธานี ภายใต้กิจกรรม “ปันน้ำใจ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคีของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุทัยธานีในการดำเนินการรับผู้ต้องโทษปรับเข้าทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับช่วยเหลือซ่อมแซมวีลแชร์ เพื่อบริจาคให้แก่ผู้ร้องขอผ่านศูนย์ซ่อมวีลแชร์ และเด็กพิเศษของศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดอุทัยธานีอีกด้วย
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จำนวนผู้ต้องโทษปรับที่ศาลสั่งทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับของจังหวัดอุทัยธานี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 – 30 มิถุนายน 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 201 คดี ส่วนใหญ่เป็นฐานความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.ยาเสพติดฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.จราจรทางบก (ขับรถประมาท) โดยมีจำนวนเงินค่าปรับตั้งแต่ 1,500 – 80,000 บาท สำหรับประเภทกิจกรรมทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุทัยธานี จะสอดคล้องกับทักษะความรู้และความสามารถพิเศษของผู้ต้องโทษปรับ อาทิ ช่างเลื่อยไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ ช่างซ่อมแอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ช่างก่อสร้าง ช่างปูน หรือซ่อมห้องน้ำ ระบบโครงสร้างใต้อาคาร ท่อระบายน้ำทิ้ง หรือมีความรู้ด้านวิชาการ จะนำเข้ามาช่วยงานเอกสารเบื้องต้น เช่น งานด้านธุรการ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องโทษปรับที่ไม่มีเงินชำระค่าปรับมาทำงานบริการสังคม อันเป็นการลดจำนวนผู้ต้องกักขังแทนค่าปรับและการลดการคุมขังที่ไม่จำเป็น รวมทั้งสร้างจิตสำนึกให้แก่ผู้ต้องโทษปรับตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมเพิ่มมากขึ้น
………………………………………