ป.ป.ส. เผยความสําเร็จในการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นจากกว่า 50,000 ไร่ เหลือไม่ถึง 200 ไร่ในปัจจุบัน เกิดจากการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9

วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยผลการสำรวจพื้นที่ปลูกฝิ่นในประเทศไทยโดยสถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติดของสำนักงาน ป.ป.ส. ในฤดูกาลปลูกปี 2563 พบพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่นรวม 224 แปลง เป็นพื้นที่ 143.85 ไร่ ลดลงจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 46 ซึ่งเป็นจำนวนพื้นที่ปลูกที่น้อยที่สุดในรอบ 40 ปี สำหรับการลักลอบปลูกฝิ่นพบใน 18 อำเภอ 6 จังหวัด โดยพบมากที่สุดใน จ.เชียงใหม่ 80.68 ไร่ รองลงมาเป็น จ.ตาก 43.75 ไร่ จ.แม่ฮ่องสอน 7.65 ไร่ จ.เชียงราย 6.15 ไร่ จ.น่าน 5.14 ไร่ และ จ.พะเยา 0.47 ไร่ ซึ่งทุกพื้นที่ถูกตัดทำลายลงทั้งหมด

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ในทุกปีสำนักงาน ป.ป.ส. จะทำการสํารวจพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่น โดยการใช้การบินสำรวจ ร่วมกับการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมมาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่ ผ่านระบบภูมิสารสนเทศ (GIS) และการสํารวจจากระยะไกล (Remote Sensing) เนื่องจากการปลูกฝิ่นจะปลูกในภูมิประเทศและมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ฝิ่นจะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่อากาศหนาวเย็นและมีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตร ขึ้นไป ทำให้พื้นที่ปลูกฝิ่นอยู่ในป่าเขาที่ห่างไกลและความยากลําบากในการเดินทางเข้าพื้นที่ ซึ่งในอดีตเมื่อปี 2527 เคยสํารวจพบพื้นที่ปลูกฝิ่นมากที่สุดถึง 54,854 ไร่ แต่ด้วยการพัฒนาบนที่สูงตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้พื้นที่ปลูกฝิ่นลดลงตามลำดับจนกระทั่งในปี 2546 เหลือเพียง 5,266 ไร่ และพื้นที่ปลูกฝิ่นก็ลดลงอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันเหลือเพียง 143.85 ไร่

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อว่า หนึ่งในมาตรการสำคัญในการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่น คือ การตัดทําลาย โดยหน่วยงานในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ตำรวจภูธรภาค 5 กรมการปกครอง และสำนักงาน ป.ป.ส. ที่รับผิดชอบพื้นที่ ประการสำคัญ สิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป คือ การพัฒนาทางเลือก เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวเขาบนพื้นที่สูง โดยดําเนินการตามพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานโครงการหลวงมาตั้งแต่ปี 2512 ซึ่งต่อมาในปี 2552 ได้มีการดำเนินงานตาม “โครงการขยายผลโครงการหลวง เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน” และในปี 2557 มีการจัดตั้ง “ศูนย์อํานวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อําเภออมก๋อย” ทั้งสองโครงการได้ดําเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทําให้สามารถควบคุมพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่นได้เป็นอย่างดี

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวในตอนท้ายว่า แม้ยาบ้าจะเป็นยาเสพติดที่เป็นปัญหาหลัก แต่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ละเลยในการควบคุมดูแลยาเสพติดประเภทอื่น เช่น การควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้พี่นัองประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ส่วนสํานักงาน ป.ป.ส. จะยังคงดําเนินงานติดตามแก้ไขปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ปัญหาการปลูกฝิ่นกลับมาเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต

………………………………………….