สวธ. ขับเคลื่อนโครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือทั่วประเทศ ชวนนักอ่านสนุกกับกิจกรรม Book Passport

วันที่ ๑๐ ก.ค. ๒๕๖๓ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ มูลนิธิวิชาหนังสือ เดินหน้าจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมร้านหนังสือ เพื่อสร้างเครือข่ายร้านหนังสือและระบบวิธีการกระจายหนังสือ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนหนังสือที่มีคุณภาพให้มากขึ้นอย่างเพียงพอและตรงตามความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งขยายพื้นที่แหล่งความรู้พื้นฐานแก่ประชาชนทั่วประเทศอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง โดยมีนายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้เดินทางมาเปิดร้านหนังสืออิสระ ณ ร้านหนังสือประนอม อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หนึ่งในร้านหนังสือที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมร้านหนังสือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า การอ่านเป็นทักษะสำคัญยิ่งตลอดชีวิตของทุกคนด้วยจะก่อให้เกิดการวางรากฐานแห่งการคิด วิเคราะห์ สร้างจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งประเทศไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคนในทุกมิติและทุกวัย ให้เป็นคนมีคุณภาพรู้จักรับผิดชอบสังคมและผู้อื่น มีนิสัยรักหนังสือและใฝ่ใจการเรียนรู้ การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ร้านหนังสือเล็กๆที่มีขึ้นในชุมชนต่างๆ จึงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาชาติที่ขาดเสียมิได้เช่นกัน ดังนั้นการสร้างสังคมนักอ่านและการเรียนรู้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวบรรลุเป้าหมายอย่างแท้จริง

“โครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือ เป็นโครงการสนับสนุนร้านหนังสืออิสระให้เป็นสถานที่ส่งเสริมการอ่าน และแหล่งเรียนรู้พื้นฐานของชุมชน ด้วยที่ร้านหนังสืออิสระดำเนินการโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ซึ่งไม่เคยได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากภาครัฐและภาคส่วนอื่นๆอย่างจริงจัง ร้านหนังสืออิสระล้วนมีที่มาจากความรักหนังสือเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงมีความแตกต่างกับร้านหนังสือใหญ่ เช่น เชนสโตร์ หรือบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีอำนาจในการคัดเลือกหนังสือเพื่อวางจำหน่ายในร้านได้มากกว่า จึงจำเป็นต้องเปิดโอกาสให้ร้านหนังสืออิสระทั่วประเทศ มีสถานะมั่นคงขึ้นด้วยนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล เพื่อจะเป็นฐานของสำนักพิมพ์ นักเขียน นักแปล บรรณาธิการ และอาชีพอื่นๆมากหลายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งขยายพื้นที่แหล่งความรู้พื้นฐานแก่ประชาชนทั่วประเทศอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง” อธิบดีสวธ. กล่าว

ด้านนายมกุฏ อรฤดี เลขานุการมูลนิธิวิชาหนังสือ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ว่า ร้านหนังสืออิสระเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมวัฒนธรรมหนังสือ สร้างสังคมความรู้ และการแลกเปลี่ยนความคิดในชุมชน กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจึงร่วมกับมูลนิธิวิชาหนังสือ จึงจัดโครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเกื้อหนุนร้านหนังสืออิสระให้ดำเนินกิจการได้ราบรื่น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งความรู้พื้นฐานที่ดีและมีคุณภาพ มีบรรยากาศ เอื้อต่อการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านทั่วประเทศ เป็นแหล่งเผยแพร่และเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมอันสำคัญของชุมชน เป็นตัวแทนภาครัฐในการส่งเสริมการอ่านและความรู้ในพื้นที่ภูมิภาค อีกทั้งเป็นช่องทางกระจายหนังสือไปในพื้นที่ทุกแห่ง โดยเฉพาะชนบทห่างไกล

และเลขานุการมูลนิธิวิชาหนังสือ ยังได้กล่าวถึงรายละเอียดของกิจกรรม Book Passport ว่า นักอ่านที่สนใจร่วมกิจกรรมต้องลงทะเบียนหมายเลขเล่ม Book Passport ทางออนไลน์ ตามลิงค์ที่ปรากฏในเล่มหรือในเพจ www.facebook.com/Book PassportTH โดยประทับตราจากร้านหนังสืออิสระที่เข้าร่วมโครงการซึ่งสังเกตุได้จากโปสเตอร์สัญลักษณ์โครงการฯที่ติดไว้ที่หน้าร้านหนังสืออิสระ เมื่อซื้อหนังสือที่ร้านหนังสือ พร้อมระบุ วัน เดือน ปี ที่ประทับตรา จึงจะสามารถมีสิทธิ์ในการจับสลากลุ้นรับรางวัลและของที่ระลึกในแต่ละเดือน ได้แก่ บัตรซื้อหนังสือ ร้านหนังสืออิสระทุกร้าน มูลค่า ๑,๐๐๐ บาท จำนวน ๕ รางวัล ทุกเดือน และลุ้นรับรางวัลรอบ ๖ เดือน ได้แก่ รางวัลที่ ๑ ตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พัก บัตรซื้อหนังสือรวมมูลค่า ๒๐,๐๐๐ บาท จำนวน ๑ รางวัล รางวัลที่ ๒ บัตรซื้อหนังสือมูลค่า ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๒ รางวัล และรางวัลที่ ๓ บัตรซื้อหนังสือ มูลค่า ๑,๐๐๐ บาท จำนวน ๕ รางวัล

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจร่วมสนุกกับกิจกรรมสามารถขอรับ Book Passport ได้ที่ร้านหนังสืออิสระใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการฯ กว่า ๔๐ ร้าน อาทิ ร้านบุ๊คส์แอนด์บีลองกิ้งส์ ร้านแมวไทย ร้านหนังสือเดินทาง  ร้านหนังสือน้ำพุบุ๊คสโตร์ ร้านเดอะบุ๊คส์ ร้านดีเคบุ๊คส์ ร้านเล่า เป็นต้น ติดตามรายชื่อร้านและข่าวสารเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/BookpassportTH หรือ www.culture.go.th

………………………………………………………………………….