อนุทิน กำชับทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมรับมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลมอบนโยบายมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงตรวจสถานบันเทิง ดูแลโรงเรียนใกล้ชิด  ทุกโรงพยาบาลตรวจความพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ป้องกันพร้อมดูแลหากพบผู้ป่วย เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ หากพบ 5 รายขึ้นไปในสัปดาห์และสถานที่เดียวกัน ให้สอบสวนและควบคุมโรคทันที

วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหาร ประชุมทางไกลมอบนโยบายเตรียมความพร้อมรับการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 กรณีโรคโควิด 19 ให้กับผู้บริหารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป

นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศนานกว่า 1 เดือน เป็นผลจากการทำงานของทุกหน่วยงาน และประชาชน รวมทั้งระบบสาธารณสุขที่มีความเข้มแข็ง ทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด 19 (ศบค.) ของรัฐบาลมั่นใจ นำไปสู่การผ่อนคลายระยะที่ 5 เพื่อให้การดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ ฟื้นฟูธุรกิจ เศรษฐกิจให้กลับคืนมามากที่สุด มีการเปิดโรงเรียน สถานบันเทิง เปิดรับชาวต่างชาติเข้าประเทศในกลุ่มที่จำกัด คนไทยกลับบ้าน ทำให้มีโอกาสพบผู้ติดเชื้อในประเทศได้ เราจะต้องค้นหา ป้องกันควบคุมจัดการให้ได้ หากมีผู้ป่วยต้องนำเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดการระบาด สร้างความเชื่อมั่นและจะไม่ปิดประเทศเช่นที่ผ่านมาหากประชาชนให้ความร่วมมือ การ์ดอย่าตก

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำหลักการสำหรับสถานบันเทิง และโรงเรียน ซึ่งเป็นที่มีการรวมกลุ่มกัน ให้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานและเลขานุการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุม โดยร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกวดขันให้สถานบันเทิงปฏิบัติตามแนวทางที่ ศบค.กำหนดอย่างเข้มงวด หากไม่ปฏิบัติตามหรือเกิดการติดเชื้อโดยประมาท เจ้าของกิจการจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย

สำหรับโรงเรียน ได้ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้คำแนะนำ เน้นหากเด็กป่วยให้หยุดเรียน ผู้ปกครองต้องให้ลูกหลานสวมหน้ากากอนามัย และโรงเรียนจัดเว้นระยะห่างในห้องเรียน นอกจากนี้ ให้กรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เสริมศักยภาพของหน่วยคัดกรองที่ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ ทั้งท่าอากาศยาน ท่าเรือ ด่านตรวจคนเข้าเมืองให้มีความเข้มงวด สามารถตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการได้อย่าง อำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ให้ทุกโรงพยาบาลเตรียมความพร้อม สำรวจเวชภัณฑ์ ชุดป้องกันและอุปกรณ์ที่จำเป็น และขอให้เน้นย้ำกับผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดใช้ประโยชน์ข้อมูลจาก platform “ไทยชนะ” ที่เก็บข้อมูลร้านค้า การเช็คอิน-เช็คเอาต์ของผู้ใช้บริการ และใช้แอปพลิเคชันผู้พิทักษ์ไทยชนะสำหรับประเมินสุขอนามัยของกิจการ รวมทั้งให้เฝ้าระวังโรคในผู้ป่วยโรคติดต่อทางเดินหายใจ ส่งตรวจ LAB หาเชื้อก่อโรคโควิด 19 ส่วนโรงเรียนหรือสถานที่เสี่ยงที่เปิดให้บริการ หากพบผู้ป่วยอาการทางเดินหายใจเฉียบพลัน เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ 5 รายขึ้นไปภายในสัปดาห์เดียวกัน ในสถานที่เดียวกันเช่น ห้องเรียน หอพัก สถานประกอบกิจการ ให้สอบสวนและควบคุมโรคโดยเร็ว

………………………………………………………