กรมประมง จับมือ สวทช. จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม ทางด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ณ ห้องประชุมพะยูน กรมประมง นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง และนายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมทางด้านการเพาะเลี้ยงส้ตว์น้ำ เพื่อร่วมกันดำเนินงานด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทยทั้งระบบให้ครบวงจร รวมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก ภายใต้กรอบความร่วมมือ ดังนี้

1.ร่วมกันดำเนินงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในรูปแบบต่าง ๆ ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย

2.ร่วมกันจัดหาและสนับสนุนทรัพยากร เช่น บุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์สำหรับใช้ในการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้

3.แลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลทางวิชาการ รวมทั้งจัดฝึกอบรมและสัมมนา ระหว่างบุคลากรของทั้งสองฝ่าย

4.ร่วมกันพัฒนาบุคลากรของทั้งสองฝ่ายโดยการส่งเสริมความสัมพันธ์ในการพัฒนาโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา (ถ้ามี) และ/หรือบุคลากรระหว่างกัน

กรมประมง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการพัฒนาการประมง รวมทั้งด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ที่จะต้องวิจัยและพัฒนาให้ก้าวหน้าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตลอดสายการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าประมงให้มีประสิทธิภาพทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาด้านการประมงของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดังนั้น พิธีลงนาม MOU ในวันนี้ จึงเป็นที่น่ายินดียิ่ง สำหรับการร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในทุกมิติของการวิจัย ทั้งในด้านการทำงานวิจัยร่วมกัน การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์งานวิจัย และร่วมกันพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทั้ง 2 หน่วยงานให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่จะได้จากการร่วมมือระหว่างกัน จะนำไปสู่การถ่ายทอดไปยังผู้ประกอบการ และเกษตรกรให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เป็นการสร้างรายได้และอาชีพให้เกิดความมั่นคงได้อย่างยั่งยืนต่อไป อีกทั้ง เป็นรากฐานอันจะนำไปสู่ความสำเร็จและมั่นคงในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทยตลอดไป

……………………………………………………………………..