พม. เตรียมจ่ายเงินเยียวยารอบเดียว 3,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบางภายใน 20 ก.ค. นี้

วันที่ 1 ก.ค. 63 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถนนกรุงเกษม สะพานขาว กทม.นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยถึงการจ่ายเงินเยียวยา 3,000 บาท สำหรับกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) ว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563

คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย ให้แก่ประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยการจ่ายเงินเยียวยาโดยตรงรายละ 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเติมจากเงินอุดหนุน เพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เบี้ยความพิการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 รวมเป็นเงิน 3,000 บาท มีจำนวนทั้งหมด 6,781,881 ราย ประกอบด้วย

1.เด็กที่ได้รับสิทธิโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวน 1,394,756 ราย

2.ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 4,056,596 ราย

3.คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 1,330,529 ราย

นายปรเมธี กล่าวต่อไปว่า กลุ่มเปราะบางทั้งสามกลุ่มเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยและอยู่ในครอบครัวที่ประสบภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะว่างงานของสมาชิกครอบครัว โดยผู้ที่มีสิทธิรับเงินเยียวยา 3,000 บาท สำหรับกลุ่มเปราะบาง มีหลักเกณฑ์ ดังนี้

1.ต้องเป็นผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ์การช่วยเหลือเยียวยาจากมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม)

2.เป็นกลุ่มที่อยู่ในฐานข้อมูลของกระทรวง พม. ซึ่งได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีการลงทะเบียนในการขอรับสิทธิ์อีก

โดยหากท่านได้รับเงินอุดหนุนในเดือนพฤษภาคม 2563 จากช่องทางการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร หรือในรูปแบบเงินสด ถือว่าท่านมีสิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวง พม. ซึ่งได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจ่ายเงินเยียวยาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น

นายปรเมธี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม.จะเร่งดำเนินการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเดือนละ1,000 บาท รวม 3 เดือน คิดเป็นเงิน 3,000 บาท (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 โดยแบ่งเป็น 2 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางที่

1 กรมบัญชีกลางโอนเงินช่วยเหลือเยียวยาโดยตรงไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มเป้าหมายที่เคยได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนผ่านบัญชีธนาคารอยู่เดิม

2 กรมบัญชีกลางโอนเงินไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะนำจ่ายเป็นเงินสดให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่รับเงินอุดหนุนรายเดือนเป็นเงินสดอยู่เดิม

ในกรณีที่ไม่ได้รับสิทธิ์หรือมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)ทุกจังหวัด หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง

……………………………………………………………………..