ปภ.แนะผู้ขับขี่เรียนรู้หลักปฏิบัติในการขับรถอย่างปลอดภัย…ป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย

            กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) แนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย โดยไม่ขับรถตามหลังรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด ให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนช่องทางในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร สังเกตระยะห่างของรถที่ขับตามหลังมาก่อนหยุดรถ ให้สัญญาณไฟก่อนขับแซง ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรอย่างเคร่งครัดพร้อมเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถในเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด กรณีบรรทุกสิ่งของ สิ่งของที่บรรทุกต้องยื่นจากตัวรถด้านหลังไม่เกิน 2.5 เมตร ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนหยุดหรือจอดรถในระยะไม่ต่ำกว่า 30 เมตร กรณีรถเสียบนเส้นทาง       ควรให้สัญญาณ โดยเปิดไฟฉุกเฉิน พร้อมนำวัสดุอื่นๆ มาวางด้านหลังรถในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กล่าวว่า บ่อยครั้งที่เกิดอุบัติเหตุชนท้าย โดยมีสาเหตุจากการเว้นระยะห่างไม่เหมาะสม การขับชิดท้ายรถคันหน้ามากเกินไป และการเปลี่ยนช่องทางในระยะกระชั้นชิด เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย ดังนี้ การเว้นระยะห่าง ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าไม่ต่ำกว่า 60 เมตร จะช่วยให้มีระยะในการหยุดรถอย่างปลอดภัย หากขับรถในช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดี ถนนเปียกลื่น หรือบรรทุกของหนัก ควรเว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากขึ้น เพราะหากรถคันหน้าเบรกกะทันหัน หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน จะไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุชนท้ายได้ การเปลี่ยนช่องทาง ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทางในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร เพื่อให้รถคันอื่นชะลอความเร็วและให้ทาง จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย การเบรกเพื่อชะลอความเร็วหรือหยุดรถ สังเกตระยะห่างของรถที่ขับตามหลังมาก่อนเบรกรถ เพราะหากรถคันหลังขับชิดท้าย   ในระยะกระชั้นชิด อาจเบรกไม่ทันและถูกชนท้ายได้ พร้อมแตะเบรกเบาๆ ชะลอความเร็วก่อนหยุดรถ เพื่อให้ผู้ที่ขับรถตามหลังมาหยุดรถได้ทัน ที่สำคัญ ไม่ควรเหยียบเบรกบ่อยครั้งโดยไม่จำเป็น เพราะทำให้ผู้ที่ขับรถตามหลังมาไม่สามารถกะระยะในการหยุดรถ     ได้อย่างปลอดภัย ทำให้เกิดอุบัติเหตุชนท้ายได้ การขับแซง ควรให้สัญญาณไฟก่อนขับแซง เมื่อประเมินสภาพเส้นทางแล้วปลอดภัย จึงค่อยขับแซง ห้ามขับรถแซงทางด้านซ้าย หรือริมไหล่ทาง โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจ มีรถจอดโดยไม่ให้สัญญาณไฟ การขับรถผ่านสี่แยกที่มีสัญญาณไฟจราจร ให้ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรอย่างเคร่งครัด หากจอดรถติดไฟแดงเป็นคันแรก และยังไม่มีรถมาจอดต่อท้าย ผู้ขับขี่ควรแตะเบรกค้างไว้ เพื่อใช้ไฟเบรกเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ที่ขับรถตามหลังทราบว่ามีรถจอด จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย การขับรถในเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรถเกียร์อัตโนมัติ หากผู้ขับขี่เผลอยกเท้าออกจากแป้นเบรกในขณะที่เกียร์อยู่ที่ตำแหน่ง D จะทำให้รถพุ่งชนท้ายรถคันหน้า เพื่อความปลอดภัย ควรเลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง P หรือตำแหน่ง Nและดึงเบรกมือไว้ การขับรถบรรทุกสิ่งของ สิ่งของที่บรรทุกต้องยื่นจากตัวรถด้านหลังไม่เกิน 2.5 เมตร โดยในช่วงเวลากลางวันให้นำวัสดุที่เห็นได้ชัดมาผูกไว้บริเวณปลายสุดของสิ่งที่บรรทุก สำหรับในช่วงเวลากลางคืนให้ติดสัญญาณไฟที่มองเห็นได้ชัดเจนในระยะ 150 เมตร เพื่อให้ผู้ที่ขับรถตามหลังสังเกตเห็น จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย การจอดรถ ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนหยุดหรือจอดรถในระยะไม่ต่ำกว่า 30 เมตร โดยจอดรถทางด้านซ้าย ของช่องทางเดินรถ ขนานกับถนนชิดขอบทาง หรือจอดรถในช่องที่จัดไว้ จะช่วยป้องกันรถที่ขับตามหลังมาชนท้าย และห้ามจอดรถบริเวณสะพาน อุโมงค์ ทางร่วมทางแยก ทางเข้าออกอาคาร หรือทางเดินรถที่มีไหล่ทางแคบหรือมีลักษณะเป็นคอขวด เพราะเสี่ยงต่อการ ถูกชนท้าย กรณีรถจอดเสียบนทางเดินรถ ให้สัญญาณโดยเปิดไฟฉุกเฉิน พร้อมนำกรวย ป้ายสะท้อนแสงหรือวัสดุอื่นๆ มาวางให้ห่างจากด้านหลังรถในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร เพื่อเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่นเพิ่มความระมัดระวัง และเปลี่ยนช่องทางได้ทัน     โดยจอดชิดริมไหล่ทางให้มากที่สุด จากนั้นพยายามนำรถออกให้พ้นจากทางเดินรถโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กีดขวางช่องทางจราจร จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย ทั้งนี้ การเรียนรู้หลักปฏิบัติในการขับรถอย่างปลอดภัย จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย  และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง