ไรเซน เอนเนอร์จี ส่งมอบ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” 101 คันแรกประจำการสนามบินสุวรรณภูมิ ยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ พร้อมขับเคลื่อนไทยสู่ยุคพลังงาน 4.0

จากซ้ายไปขวา นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด นายหลิว ซู่เหลียง ผู้จัดการทั่วไปแผนกการขายภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ จำกัดนายรณชัย จินวัฒนาภรณ์ ประธานบริหาร บริษัท ไรเซน เอเนอร์จี จำกัด นายวิชิต วิทยฐานกรณ์ ประธานที่ปรึกษา บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการ บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัดและนายคุณา วิทยฐานกรณ์ กรรมการบริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด

กรุงเทพฯ – 16 สิงหาคม 2561 – ไรเซน เอนเนอร์จี ส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้า “บีวายดี อีซิกส์” (BYD e6) จำนวน 101 คัน ให้แก่บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด ผู้บริหารกิจการแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งสานความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในภาคขนส่งสาธารณะครั้งแรกของประเทศไทย ในโครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” (EV Taxi VIP) เพื่อยกระดับคุณภาพรถและบริการของแท็กซี่ไทย โดยจะเริ่มประจำการที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่  9 กันยายน 2561 เป็นต้นไป สามารถเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น Taxi Ok ของกรมการขนส่งทางบก หรือผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ โทร. 0 2039 8888 ตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจุบันทั่วโลกมียานยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 3,000,000 คัน โดยในปี 2560 การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวมากขึ้นในหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ เยอรมนี ไอซ์แลนด์ ญี่ปุ่น และจีน สำหรับประเทศไทย คาดว่ายานยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการขนส่งสาธารณะ ตามนโยบายพลังงาน 4.0 ของภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ 1,200,000 คัน ภายในปี 2579 เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิง และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ตามแผนแม่บทการอนุรักษ์พลังงาน

นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีแนวทางในการขับเคลื่อนส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้สูงขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล โดยที่ผ่านมากรมการขนส่ง
ทางบกได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และแนวทางการใช้รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่างปลอดภัย ซึ่งทำให้เกิดการขับเคลื่อนสนับสนุนการเติบโตของของยานยนต์ไฟฟ้า และกระทรวงคมนาคมยังได้เร่งผลักดันให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้การเปิดตัว EV Taxi VIP ภายใต้การยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยโครงการ Taxi VIP ของกรมการขนส่งทางบก จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสร้างระบบการคมนาคมขนส่งที่มีคุณภาพในทุกด้าน ทั้งการยกระดับการให้บริการระดับมืออาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่  พร้อมทั้งดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากการคมนาคมขนส่งเพิ่มเติม อีกทั้งยังลดการใช้น้ำมันลง เนื่องจากรถที่นำมาใช้ให้บริการเป็น EV Taxi VIP เป็นรถที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน เพิ่มจำนวน Taxi VIP ซึ่งเป็นการให้บริการรถหรูระดับพรีเมี่ยม ที่มีมาตรฐานครอบคลุมในทุกมิติตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยมีสถานีอัดประจุไฟ Charging station ให้บริการทั้งหมด 30 แห่งทั่วกรุงเทพ เพียงพอกับความต้องการใช้งานของรถ EV Taxi VIP นอกจากนี้ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดพื้นที่จอดรถบริเวณชั้น 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้กับรถ EV Taxi VIP ส่งเสริมความเป็น Smart Airport ให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสร้างเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศ

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการขนส่งในการใช้รถโดยสารสาธารณะพลังงานทางเลือกที่มิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและการให้บริการ โดยเฉพาะการยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยให้มีคุณภาพความปลอดภัยและการให้บริการภายใต้โครงการ Taxi OK และ Taxi VIP โดยนำเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือบริหารสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนด้วยบริการด้วยรถสาธารณะที่ดีมีคุณภาพ โดยเฉพาะ Taxi VIP ซึ่งเป็นรูปแบบการให้บริการเดินทางที่เป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับรองรับความต้องการกลุ่มผู้โดยสาร เช่น ลูกค้าองค์กรธุรกิจ, ธุรกิจโรงแรม, นักธุรกิจและนักท่องเที่ยว ที่ต้องการความหรูหราสะดวกสบายและการให้บริการในการเดินทางระดับพรีเมี่ยม ในส่วนของความร่วมมือของภาคเอกชนครั้งนี้ บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด ได้นำรถยนต์ไฟฟ้า BYD e6 (บีวายดี อีซิกซ์) มาให้บริการเป็น Taxi VIP ซึ่งจะเป็นรถแท็กซี่ไฟฟ้า 100% กลุ่มแรกของประเทศไทย เนื่องจากรถ BYD e6 เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จะพร้อมให้บริการ EV Taxi VIP ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2561 เป็นต้นไป และบริษัทฯ ตั้งเป้ามีรถ EV Taxi VIP ให้บริการ 101 คัน ภายในปี 2561

ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวถึงการมีส่วนร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของสมาคมฯ ซึ่งนอกจากจะผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว ยังสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น สถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่จะมีให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ การนำร่องใช้แท็กซี่ไฟฟ้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยตื่นตัว กระตุ้นการวิจัยและพัฒนา และแสดงความพร้อมในการเดินหน้าเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดมลภาวะในภาคคมนาคมขนส่ง

นายศุภจิตร สิงหนุ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการขนส่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวเสริมว่า ด้วยวิสัยทัศน์ในการดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก และมีพันธกิจในการประกอบกิจการอย่างยั่งยืนของท่าอากาศยานไทย โครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสนามบินไปสู่การเป็นสมาร์ทแอร์พอร์ต (Smart Airport) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ณ จุดจอดรถบริเวณ ชั้น 1 สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 5 ช่องจอด รวมทั้งลานจอดรถระยะไกล นอกจากนี้ ยังมีแผนการติดตั้งจุดชาร์จไฟในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่อาคารจอดรถ 2 และ 3 รวมทั้งจุดจอดรถระยะยาว สามารถรองรับการชาร์จไฟของ ‘อีวี แท็กซี่ วีไอพี’ ทั้ง 101 คัน รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นในอนาคต

นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า “ด้วยมาตรฐานการผลิตที่มีความเสถียรและปลอดภัยระดับโลกของ บีวายดี ออโต้ ผู้นำในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
ลิเธียมของโลกมากว่า 20 ปี และยังเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกด้วยยอดขายกว่า 200,000 คันต่อปี ในกว่า 40 ประเทศ ผสานกับการบริหารที่มีประสิทธิภาพของ อีวี โซไซตี้ ทั้งด้านการจัดการและการฝึกอบรมพนักงานขับรถ ด้านมาตรฐานบริการ ความเชี่ยวชาญในการขับขี่ และการดูแลรักษายานยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้น ประกอบกับความพร้อมของ ไรเซน เอนเนอร์จี ในการให้บริการหลังการขาย ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและผ่านการอบรม\ด้านซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างดี รวมถึงให้บริการอะไหล่คุณภาพ โครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” จึงเป็นการยกระดับบริการรถสาธารณะและคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการ”

“การผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าบีวายดี อีซิกส์ (BYD e6) ภายใต้โครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” โดยความร่วมมือของบริษัท อีวี โซไซตี้ และพันธมิตรในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือก ซึ่งมีราคาที่แข่งขันกับรถยนต์ทั่วไปได้ เนื่องจากต้นทุนแบตเตอรี่ลดลงประมาณ 12-15% ทุกปี นอกจากนี้ แรงผลักดันจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐ ทั้งในเรื่องการผ่อนปรนกฎระเบียบ การสนับสนุนเงินอุดหนุนทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งความต่อเนื่องและความชัดเจนของนโยบาย เป็นส่วนช่วยให้เราเดินหน้าผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเป็นรูปธรรมและแพร่หลายมากขึ้น” นายอภิชาติ กล่าวสรุป

สำหรับผู้ให้บริการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการบริษัท บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ มุ่งพัฒนาบริการของแท็กซี่ไทยให้ สะดวก ปลอดภัย และเป็นมืออาชีพ ตามนโยบายของกรมการขนส่งทางบก รวมทั้งต้องการส่งเสริมการใช้รถพลังงานสะอาด เพื่อรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าสากล โดย “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” จะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนเป็นต้นไป โดยผู้สนใจสามารถเรียกใช้บริการผ่าน 3 ช่องทาง ทั้งบริเวณเคาน์เตอร์ศูนย์บริการ
ชั้น 1 สนามบินสุวรรณภูมิ แอปพลิเคชั่น Taxi Ok ของกรมการขนส่งทางบก และคอลล์เซ็นเตอร์
โทร. 0 2039 8888 สำหรับอัตราค่าโดยสารเริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท กิโลเมตรถัดไป คิดอัตรากิโลเมตรละ 16 บาท โดยมีโปรโมชั่นส่วนลด 5% เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต อาลีเพย์ วีแชท
แรบบิทไลน์เพย์”

“บริษัทได้ฝึกอบรมพนักงานขับรถโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการรถโดยสารสาธารณะจากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งการทดสอบทั้งด้านมารยาทการให้บริการ ความเชี่ยวชาญในการขับขี่ และการดูแลรักษายานยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้น รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรคือ เจพี ประกันภัย ในการสนับสนุนเบี้ยประกันภัยอัตราพิเศษที่ครอบคลุมทั้งตัวรถ คนขับ และผู้โดยสาร ขณะที่ อีเอ พันธมิตรผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟและซัสโก้ สนับสนุนให้รถ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” ทั้ง 101 คันชาร์จไฟฟรี ณ  สถานบริการน้ำมันและชาร์จไฟซัสโก้ 7 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ สาขาบางปะกอก (ซัสโก้สำนักงานใหญ่ ถนนราษฎร์บูรณะ) กาญจนาภิเษก บางยอ เอกชัย เสนานิคม ศรีนครินทร์ 1 และศรีนครินทร์ 3 จนถึงสิ้นปี 2561” นายสรยุทธ กล่าวทิ้งท้าย