กรมการแพทย์แนะผู้สูงอายุปฏิบัติตัวรับมืออาการเวียนศีรษะบ้านหมุน

นายแพทย์สมศักดิ์  อรรฆศิลป์  อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุตั้งแต่ที่รุนแรงน้อยจนถึงรุนแรงมาก หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นในส่วนใดส่วนหนึ่งจะส่งผลต่อการทรงตัวและการเคลื่อนไหวของร่างกายทันที ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะที่รุนแรงจนรู้สึกว่าบ้านหมุน โรคที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่พบบ่อย ได้แก่ 1. โรคเวียนศีรษะขณะเปลี่ยนท่าทางพบได้บ่อยที่สุด เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนเกิดขึ้นทันทีในขณะเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ เช่น ระหว่างกำลังล้มตัวลงนอนหรือลุกจากที่นอน เงยหน้า ก้มหยิบของ เป็นต้น โดยมีอาการในระยะเวลาสั้นๆ แล้วค่อยหายไป 2. โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด            แต่พบว่าอาการของโรคเกิดจากความผิดปกติของน้ำที่อยู่ภายในหูชั้นใน ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุนอย่างรุนแรง ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการอาจจะนานเป็นนาทีจนถึงหลายชั่วโมง ระหว่างที่เกิดอาการผู้ป่วยควรอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับศีรษะ เพราะจะทำให้มีอาการเวียนศีรษะเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจมีการได้ยินลดลงและมีเสียงดังในหู 3. โรคอื่นๆ เช่น การอักเสบของหูชั้นใน                 เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ เป็นต้น

นายแพทย์ประพันธ์  พงศ์คณิตานนท์  ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ  กรมการแพทย์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สูงอายุจะรู้สึกวิงเวียนเหมือนสิ่งของรอบตัวหมุนได้ เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนและสูญเสียการทรงตัว อาจทำให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุ ดังนั้นเมื่อเวียนศีรษะจนบ้านหมุน ควรหลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น การหมุนหันศีรษะเร็วๆ การเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล การพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มสุราหรือสูบบุหรี่ และไม่ควรอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การขับขี่ยานพาหนะ หรืออยู่ในที่สูง  ทั้งนี้ หากมีอาการไม่มากสามารถฝึกบริหารเพื่อช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะแบบง่ายๆ และทำได้ด้วยตนเอง ดังนี้          1. เริ่มต้นในท่านั่งตัวตรง 2. ล้มตัวลงนอนในท่าตะแคงข้างใดข้างหนึ่งโดยให้ใบหน้าหรือปลายจมูกชี้ขึ้นทำมุมประมาณ 45 องศา และ 3. ค้างอยู่ในท่านอนอย่างน้อย 30 วินาที จนอาการเวียนศีรษะหายไป จากนั้นจึงกลับสู่ท่านั่งตัวตรงตามเดิม ผู้สูงอายุควรดูแลตนเองให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ จะช่วยทำให้ผู้สูงอายุห่างไกลจากอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนได้

 

*****************************