กรมอนามัย ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ “สถานีขนส่งผู้โดยสารสาธารณะ” หลังผ่อนคลายระยะ 3 เน้นเข้มเว้นระยะห่างระหว่างบุคลคล

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้แทนจากสำนักงานเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เยี่ยมชมการดำเนินงานตามมาตรการผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมของบริษัทนครชัยแอร์ หลังมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 ตามที่รัฐบาลอนุญาตให้เดินทางข้ามจังหวัด เพื่อให้ประชาชนได้กลับไปใช้ชีวิตใกล้เคียงกับวิถีชีวิตปกติมากขึ้น

​วันที่ 8 มิถุนายน 2563 นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังการเยี่ยมชมการดำเนินงานตามมาตรการผ่อนคลายกิจการ “สถานีขนส่งผู้โดยสารสาธารณะ” ณ สถานีเดินรถนครชัยแอร์ กรุงเทพมหานคร ว่า จากการที่รัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนคลายระยะ 3 ในสถานประกอบการประเภทสถานีขนส่งผู้โดยสารสาธารณะนั้น อาจมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา ดังนั้นขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่งรถโดยสารสาธารณะ เข้มงวดต่อการคัดกรองพนักงานและผู้โดยสาร การควบคุมสุขลักษณะอาคารผู้โดยสารและรถโดยสาร การดูแลทำความสะอาดสถานที่อาคารผู้โดยสารและรถโดยสารเป็นประจำ รวมทั้งเพิ่มความถี่การทำความสะอาดในบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยงที่มีผู้โดยสารใช้ร่วมกัน เช่น เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วโดยสาร ตู้จำหน่ายตั๋ว ราวจับ ลูกบิดประตู เก้าอี้นั่งรอ ราวจับประตูรถ ราวจับเหนือศีรษะ เบาะนั่งและพนัก เป็นต้น การจัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ผ้าห่ม ปลอกหมอน ต้องเปลี่ยนทุกรอบที่ให้บริการ รวมถึงการดูแลสุขลักษณะสถานที่จำหน่ายอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้า และห้องส้วม การจัดจุดล้างมือและจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสาร การจัดระยะห่างตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) อย่างน้อย 1 เมตร ทั้งในอาคารโดยสาร เช่น จุดจำหน่ายตั๋ว ที่นั่งรอ รวมถึงการจัดที่นั่งในรถโดยสาร โดยมีการเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด รวมถึงการจัดระบบระบายอากาศที่ดี อัตราการหมุนเวียนของอากาศอย่างเพียงพอ และทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ

“สำหรับพนักงาน ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาปฏิบัติงาน ดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลด้วยการล้างมือหรือใช้เจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ รักษาระยะห่างบุคคล Social Distancing อย่างน้อย 1 เมตร รวมทั้งสังเกตอาการตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการเข้าข่ายตามเกณฑ์ที่เฝ้าระวังให้หยุดปฏิบัติงาน แจ้งหัวหน้างาน และพบแพทย์ทันที ผู้โดยสาร ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนขึ้นรถและขณะโดยสารบนรถตลอดเวลา เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลย่างน้อย 1 เมตร และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ภายหลังการใช้บริการควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนหยิบจับของใช้ส่วนตัว อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน ทั้งนี้ พนักงานและผู้โดยสารต้องลงทะเบียนเช็คอินและเช็คเอาท์ก่อนและหลังลงจากรถโดยสาร เพื่อเป็นข้อมูลหากพบผู้ที่เข้าเกณฑ์อาการที่เฝ้าระวังจะสามารถติดตามผู้ที่เข้าข่ายสอบสวนโรคได้อย่างรวดเร็ว” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

…………………………………………………..