ก.แรงงาน ดัน ป.ตรี ฝึกทักษะโลจิสติกส์ ป้อน EEC หนุนไทยเป็นศูนย์กลางอินโดจีน

นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกรทรวงแรงงาน มอบหมายให้ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหานักศึกษา ป.ตรี ว่างงาน รวมถึงการพัฒนาทักษะให้กำลังแรงงานของประเทศ ให้มีความรู้ความสามารถตรงกับความต้องการของสถานประกอบกิจการ จึงได้ร่วมกับสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) ดำเนินการฝึกอบรมหลักสูตรธุรกิจขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ ให้กับผู้จบการศึกษาระดับป.ตรี ที่ว่างงาน และมีความประสงค์ต้องการทำงานด้านโลจิสติกส์ ให้มีทักษะตรงตามความต้องการของสถานประกอบกิจการ โดยเฉพาะในเขต EEC ซึ่งอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และซัพพลายเชนเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ โดยรัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคอินโดจีน ประกอบมีการจัดตั้งเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้ตลาดมีความต้องการคนทำงานที่มีทักษะฝีมือเป็นจำนวนมาก เช่น ผู้ปฎิบัติการขนส่งสินค้า ผู้ขับยานพาหนะขนส่ง รถหัวลาก ผู้ปฏิบัติการคลังสินค้า ผู้ปฎิบัติด้านการจัดซื้อ พนักงานขับรถโฟล์คลิฟ ช่างเทคนิคและซ่อมบำรุง

นายสง่า วงศ์ษาพาน  ผู้อำนวยการกองพัฒนาศักยภาพแรงงานและประกอบกิจการ กล่าวเพิ่มเติมว่า  การฝึกอบรมใช้ระยะเวลาการฝึก 4 เดือน แบ่งเป็นภาคทฤษฎี 2 เดือน และฝึกงานในสถานประกอบกิจการที่เป็นสมาชิกของสมาคม TIFFA อีก 2 เดือน จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพ ธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ พิธีการศุลกากร การขนส่งทางทะเลและอากาศ การบรรจุและขนถ่ายสินค้า การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ การตลาด ภาษาอังกฤษสำหรับการขนส่งทางเรือและทางอากาศ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้สถานประกอบกิจการได้คัดเลือกผู้ผ่านการฝึกอบรมได้เข้าทำงานในตำแหน่งงานที่ถนัดและเหมาะสม อาทิ Marketing Officer, Customs Clearance, Cabin Crew, Trucking Coordinator เป็นต้น

“ที่ผ่านมา มีผู้ผ่านการฝึกอบรมจำนวน 155 คน ได้งานทำแล้ว 103 คน และอีก 52 คน อยู่ระหว่างการบรรจุในตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับความสามารถ โดยผู้สำเร็จการฝึกทั้ง 52 คนมีงานรองรับทุกคน ซึ่งมีรายได้เริ่มต้นตั้งแต่ 15,000 – 40,000 บาท/คน/เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงาน และประสบการณ์ในการทำงาน หรือหากมีทักษะด้านภาษาต่างประเทศ จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า สำหรับในปี 2562 กพร. ได้จัดทำโครงการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์รองรับธุรกิจขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ เป้าหมายเพิ่มเติมอีก 300 คน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง” อธิบดีกพร.กล่าว