องคมนตรีห่วงใยสถานการณ์ภัยแล้ง กำชับฝนหลวงฯ เร่งปฏิบัติการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่

​วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 เวลา 10.30 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (5 พ.ค.63) พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานกรรมการ
ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง ได้มีการติดตามความก้าวหน้าการปฏิบัติการฝนหลวงของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ที่มีความต้องการน้ำ โดยได้สอบถามถึงแผนการปฏิบัติภารกิจการเติมน้ำในเขื่อนต่างๆ รวมถึงสถานการณ์ของพื้นที่ที่มีความต้องการน้ำในขณะนี้ ด้วยมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาในสถานการณ์ดังกล่าว อีกทั้งยังได้ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ของกรมฝนหลวงฯ ในการปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ลุล่วง และปลอดภัยทุกครั้ง ทุกเที่ยวบิน รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 19 (Covid-19) ด้วย อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงตั้งหน่วยปฏิบัติการ จำนวน 11 หน่วย ฯ กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคในการติดตามสภาพอากาศและวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง ตลอดจนการรายงานแผนและผลการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวัน รวมถึงสถานการณ์ปริมาณน้ำของประเทศและสถานการณ์ภัยแล้งในขณะนี้

​ด้านผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่บางส่วนของ จ.แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ นครสวรรค์ ลพบุรี อุทัยธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ระยอง ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ สงขลา พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อน จำนวน 8 แห่ง อ่างเก็บน้ำ จำนวน 10 แห่ง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับบึงบอระเพ็ด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พื้นที่โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์

​สำหรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 จากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกประกาศเขตพื้นที่ภัยแล้ง ยังคงมีจำนวน 27 จังหวัด 158 อำเภอ 836 ตำบล 5 เทศบาล 7,262 หมู่บ้าน/ชุมชน บริเวณพื้นที่ภาคเหนือ 7 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ภาคใต้และภาคตะวันออก 9 จังหวัด และภาคใต้ 1 จังหวัด ขณะที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของปริมาณน้ำใช้การ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 27 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 214 แห่ง ด้านประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในวันนี้ อยู่ในระดับเสี่ยงปานกลางบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วน สำหรับจุดความร้อนหรือจุดที่มีการเผาไหม้ (Hotspot) พบว่าในประเทศไทย มีจำนวน 64 จุด โดยเกณฑ์คุณภาพอากาศของประเทศไทยวันนี้ บริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก

ส่วนคุณภาพอากาศที่ จ.หนองคายและอุบลราชธานี อยู่ในเกณฑ์เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

​ส่วนการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในวันนี้ ผลการตรวจอากาศจากสถานีเรดาร์ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในช่วงเช้าจึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมาย โดยหน่วยปฏิบัติการฯ 8 หน่วยได้แก่
​- หน่วยปฏิบัติการฯ จ.เชียงใหม่ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง
​-หน่วยปฏิบัติการฯ จ.พิษณุโลก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.อุตรดิตถ์ จ.แพร่ จ.พิจิตร พื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำ จ.สุโขทัย และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนสิริกิติ์
​-หน่วยปฏิบัติการฯ จ.ลพบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ลพบุรี จ.นครสวรรค์

​-หน่วยปฏิบัติการฯ จ.ราชบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กาญจนบุรี จ.สุพรรณบุรี และพื้นที่ลุ่มรับน้ำในพื้นที่ภาคกลาง
​- หน่วยปฏิบัติการฯ จ.ขอนแก่น ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น จ.ชัยภูมิ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนจุฬาภรณ์
​- หน่วยปฏิบัติการฯ จ.นครราชสีมา ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์
​​- หน่วยปฏิบัติการฯ จ.บุรีรัมย์ พื้นที่การเกษตร พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำ และพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ
​- หน่วยปฏิบัติการฯ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ราชบุรี และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนปราณบุรี อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ อ่างเก็บน้ำห้วยเกษม

​ทั้งนี้ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงฯ ในพื้นที่ภาคตะวันออก ขอติดตามสภาพอากาศระหว่างวัน หากมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขปฏิบัติการฝนหลวง จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในทุกพื้นที่ทันที อีกทั้ง เกษตรกร และพี่น้องประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวง และติดตามข้อมูลข่าวสารกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ทางเพจ Facebook, Line official account, Instagram, Twitter และเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
​​​​​
​​​​​*************************​

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
6 พฤษภาคม 2563