“บาดาลยักษ์” บ่อน้ำบาดาลใหญ่ที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตรวจติดตามโครงการศึกษาเทคนิคการเจาะและก่อสร้างบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ ณ บ้านธัญญอุดม หมู่ที่ 6 ตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการพัฒนาน้ำบาดาลร่วมกับน้ำผิวดินในบริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสายหลัก ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่บ้านธัญญอุดม ตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท 8 หมู่บ้าน 1,484 ครัวเรือน ประชากรกว่า 5,000 คน ให้มีน้ำอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้มอบหมายให้สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 สุพรรณบุรี จัดทำ “โครงการศึกษาเทคนิคการเจาะและก่อสร้างบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ ” ซึ่งนำแนวคิดการศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัย Riverbank Filtration (RBF) เพื่อกำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมในการต่อยอดโครงการ และดำเนินการศึกษาเทคนิคการเจาะและก่อสร้างบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 600 มิลลิเมตร (24 นิ้ว) เพื่อให้สามารถนำน้ำมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพของพื้นที่ พร้อมก่อสร้างระบบประปาบาดาลขนาดใหญ่ ทำให้มีน้ำอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี และสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อการบริหารจัดการระบบกระจายน้ำและส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ได้อีกทางหนึ่ง

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า รูปแบบของโครงการศึกษาเทคนิคการเจาะและก่อสร้างบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ เป็นการเจาะบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย เทียบเท่าระบบประปาบาดาลขนาดใหญ่ ที่เจาะโดย British Geological Survey ณ เมือง Wallingford ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นบ่อที่ใช้ทำระบบประปา โดยส่งให้ชาวเมือง Oxford ใช้ทั้งเมือง ประกอบด้วย บ่อน้ำบาดาลขนาด 24 นิ้ว พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ vertical turbine 125 แรงม้า หอถังเหล็กเก็บน้ำ ขนาด 300 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 1 ชุด ถังกรองสนิมเหล็ก และจุดจ่ายน้ำสำหรับชุมชน ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะมีปริมาณน้ำที่สามารถพัฒนาได้กว่า 1,460,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี สามารถให้ประชาชนใช้สำหรับอุปโภคบริโภค ไม่น้อยกว่า 8,000 คน และสามารถเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านเกษตรกรรม ไม่น้อยกว่า 6,255 ไร่