“มูลนิธิเอสซีจี” สานต่อโครงการมอบทุนบุตรผู้พิทักษ์ป่าปีที่ 4 มุ่งสร้างโอกาสการศึกษาเยาวชน 160 ทุน 92 พื้นที่อนุรักษ์ ลดความห่วงหน้าพะวงหลัง

“มูลนิธิเอสซีจี” เดินหน้าโครงการมอบทุนบุตรผู้พิทักษ์ป่าปีที่ 4 ภายใต้โครงการ  “Sharing the Dream Scholarship โดยมูลนิธิเอสซีจี” มอบ 160 ทุน ใน 92 พื้นที่อนุรักษ์ มอบโอกาสทางการศึกษาแก่ครอบครัวฮีโร่ผู้พิทักษ์ป่า เผยตั้งเเต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน มูลนิธิฯ มอบทุนไปแล้ว 366 ทุน 152 พื้นที่อนุรักษ์ พร้อมขยายความร่วมมือสู่กิจกรรมต่างๆ ภายใต้ โครงการ “HANDS FOR HEROES รวมมือเรา เพื่อคนเฝ้าป่า” โดยรายได้ทั้งหมดจากการจัดกิจกรรมจะนำไปสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ลาดตระเวนที่จำเป็นให้กับพู้พิทักษ์ป่า  เบื้องต้นได้จัดซื้ออุปกรณ์ลาดตระเวนให้กับผู้พิทักษ์ป่าไปแล้ว 15 หน่วย

นายขจรเดช เเสงสุพรรณ กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี เปิดเผยว่าในวันนี้ มูลนิธิเอสซีจีได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาเพื่อบุตรผู้พิทักษ์ป่าในโครงการ Sharing the Dream Scholarship โดยมูลนิธิเอสซีจี ซึ่งในปี 2561 นี้ ได้มอบทุนให้แก่บุตรผู้พิทักษ์ป่าจำนวน 160 ทุน ใน 92 พื้นที่อนุรักษ์ โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลผู้พิทักษ์ป่าจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเครือข่ายพันธมิตร และปีนี้นับเป็นปีที่ 4 แล้วที่มูลนิธิฯ ดำเนินโครงการฯ นี้ โดยเริ่มในปี 2558 เป็นปีแรก รวมจนถึงปัจจุบันได้มอบทุนให้กับบุตรผู้พิทักษ์ป่าไปแล้ว 366 ทุน 152 พื้นที่อนุรักษ์

“มูลนิธิเอสซีจีตระหนักถึงความสำคัญของผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางความเสี่ยงและอันตราย เพื่อดูแลผืนป่าและสัตว์ป่า ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของประเทศให้คงอยู่ ซึ่งทุนที่บุตรของผู้พิทักษ์ป่าได้รับนั้น มูลนิธิเอสซีจีจะมอบให้ต่อเนื่องไปจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ทุนที่ให้นี้เป็นทุนให้เปล่า ไม่มีภาระผูกพันต้องใช้คืน เรียกได้ว่าช่วยลดความกังวลให้กับผู้พิทักษ์ป่า ไม่ต้อง”ห่วงหน้า พะวงหลัง” สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังทำให้บุตรของผู้พิทักษ์ป่าได้ตระหนักถึงความดีและหน้าที่ของบิดาในฐานะ  ฮีโร่ที่ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญให้กับประเทศชาติอีกด้วย” นายขจรเดช กล่าว

นายขจรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรของผู้พิทักษ์ป่าเป็นประจำ  ทุกปีแล้ว ในปีนี้มูลนิธิฯ ยังได้ขยายความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่าด้วยการจัด โครงการ “HANDS FOR HEROES รวมมือเรา เพื่อคนเฝ้าป่า” โดยโครงการนี้จะมีการจัดกิจกรรม 3 กิจกรรมด้วยกัน ได้แก่ กิจกรรมเพ้นต์เสื้อ Paint for Heroes กิจกรรมเดิน-วิ่ง Run for Heroes และกิจกรรมคอนเสิร์ต Songs from Heroes – Songs for Heroes เพื่อหารายได้นำไปสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ลาดตระเวนที่จำเป็นให้กับ  ผู้พิทักษ์ป่า อีกทั้งยังเป็นการจุดประกายให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของผู้พิทักษ์ป่าโดยมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจัดไปแล้ว 1 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมเพ้นท์เสื้อ Pain For Heroes และได้นำรายได้ไปจัดซื้ออุปกรณ์ลาดตระเวนที่จำเป็นให้กับผู้พิทักษ์ป่าไปเเล้วจำนวน 15 หน่วย

          นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมอุทยานฯ มีความยินดีที่ได้มีส่วนในการสนับสนุนมูลนิธิเอสซีจีในการคัดเลือกบุตรผู้พิทักษ์ป่าที่เหมาะสมให้ได้รับทุนการศึกษา ผู้พิทักษ์ป่าเหล่านี้นับว่าเป็นผู้เสียสละและมีภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการปกป้องและดูแลผืนป่า รวมไปถึงทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ การดูแลและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้พิทักษ์ป่า นับเป็นการสร้างพลังใจให้กับพวกเขาได้รับรู้ว่าไม่ถูกทอดทิ้งและรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน จึงขอขอบคุณในความตั้งใจอันดีของภาคเอกชนที่ให้ความสำคัญและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งเป็นเยาวชนของชาติให้เติบโตขึ้นอย่างมีศักยภาพและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

นายระเว คานจะโป๊ะ คนงานอุทยานแห่งชาติทับลาน จ.ปราจีนบุรี หนึ่งในผู้พิทักษ์ป่าที่บุตรได้รับทุนการศึกษา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยลำเพียกและหัวหน้าชุดสายตรวจพิทักษ์ป่า ดูแลรับผิดชอบกำลัง 4 หน่วยทั้งในเขตพื้นที่ครบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงอุทยานแห่งชาติทับลาน     ทำหน้าที่บริหารจัดการกำลังออกลาดตระเวนดูแลผืนป่าและสามารถจับกุมสกัดกั้นขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงได้หลายคดี ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อสู้กับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง นับว่าอันตรายเป็นอย่างมากและหากเป็นช่วงการปฏิบัติงานออกลาดตระเวน ต้องทำงานในป่าเป็นระยะเวลาติดต่อกันนาน แทบจะไม่ได้เจอหน้าลูกและครอบครัว และในระยะหลังประสบปัญหาสุขภาพ เป็นโรคไต ต้องเข้าออกรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานถึง 2 ปีเต็ม มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก ซ้ำร้ายไปกว่านั้นโรคที่เป็นต่อเนื่องทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ภรรยาตัดสินใจแบ่งไตให้กับตน 1 ข้างเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ทำให้ตนรู้สึกเหมือนได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำงานหนักได้เช่นเดิม จากชีวิตที่เคยรุ่งโรจน์ที่เคยเป็นหัวหน้าหน่วย หัวหน้าชุดสายตรวจพิทักษ์ป่า ชีวิตต้องกลายมาทำหน้าที่ รปภ. ทำงานอยู่ในป้อมยามหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าแทน รายได้ทั้งหมดต้องนำมาเลี้ยงครอบครัวส่งลูกเรียนหนังสืออีก 2 ชีวิต การได้รับทุนบุตรผู้พิทักษ์ป่าในครั้งนี้ ทำให้รู้สึกดีใจและตื้นตันใจเป็นอย่างมาก สำหรับโอกาสทางการศึกษาที่มูลนิธิฯ มอบให้กับบุตรของตนนั้น เป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และถือเป็นกำลังใจที่ดี ขอบคุณที่มูลนิธิฯ       เห็นความตั้งใจในการทำงานเพื่อพิทักษ์ป่าของประเทศไทยให้ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งตนเองได้บอกกับลูกเสมอว่าเมื่อได้รับโอกาสที่ดีแล้วขอให้ลูกตั้งใจเรียนและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ให้สมกับที่มูลนิธิเอสซีจีได้มอบทุนให้

สำหรับ ด.ญ.สุมณฑา คานจะโป๊ะ หรือ น้องเอม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตะกุดโนนระเวียง จังหวัดนครราชสีมา บุตรสาวของนายระเว คานจะโป๊ะ หนึ่งในผู้ที่ได้รับทุนการศึกษา ผู้พิทักษ์ป่า  กล่าวว่า ภาพที่ตนเองเห็นจนชินตามาตั้งแต่เด็กคือพ่อเข้าไปทำงานในป่า เวลาที่พ่อเข้าป่าไปปฏิบัติหน้าที่แต่ละครั้งเป็นระยะเวลานาน ขึ้นอยู่กับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย อีกทั้งระยะทางจากบ้านกับอุทยานที่พ่อประจำการอยู่นับว่าไกล ประมาณ 13 กิโลเมตร ทำให้ไม่ค่อยได้เจอหน้าพ่อเท่าไหร่ ตนและพ่อจะได้เจอกันเดือนละ 1-3 ครั้งเท่านั้น ขณะนี้ถึงแม้ว่าตนยังไม่สามารถทำงานหาเงินได้ แต่ในยามว่างหลังเลิกเรียนจะช่วยครอบครัวทำงานบ้าน ไม่ว่าจะเป็นล้างจาน ซักผ้า กวาดบ้านถูบ้าน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของพ่อแม่อีกทางหนึ่ง ซึ่งเมื่อตนทราบว่าได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิเอสซีจีรู้สึกดีใจมาก ตั้งใจจะนำเงิน ที่ได้ไปซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนที่จำเป็น และบอกกับพ่อว่าจะตั้งใจเรียน โดยมีเป้าหมายของอาชีพในอนาคตคือการเป็นครู เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวและแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่ในอนาคต