อนุทิน รับเงินบริจาค 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จากทูตสวิส และบ.โนวาร์ตีส

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับเงินบริจาค 250,000 ดอลลาร์สหรัฐจากเอกอัครราชทูตสวิสประจำเทศไทย และบริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด สมทบทุนมูลนิธิกรมการแพทย์ จัดบริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมทั้งรับมอบอุปกรณ์การแพทย์จากบริษัทเอกชน และประชาชน

วันที่ 15 เมษายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร รับมอบเงินบริจาค 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (7.75 ล้านบาท) จากนางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (Mrs. Helene Budliger Artieda) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย และเภสัชกรหญิงสุมาลี คริสธานินท์ ประธานบริหาร บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด และคณะ เพื่อสมทบทุนให้กับมูลนิธิกรมการแพทย์ในการจัดบริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19

นอกจากนี้ บริษัทไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้มอบ Face Shield จำนวน 77,650 ชิ้น ที่ร่วมกันผลิตโดยพนักงานจิตอาสาของบริษัท และสปาร์ชา สลิ่มมิ่ง เซ็นเตอร์ ร่วมกับบริษัทเอกชนหลายแห่ง และบริษัทไปรษณีย์ไทย นำส่งให้กับโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ และยังได้รับบริจาคจากคณะนักศึกษาหลักสูตร MCOT Making the CEOs รุ่นที่ 2 และคณะ มอบกล่องป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัส ที่ร่วมกันจัดทำและผ่านการทดสอบการใช้งาน 310 กล่อง ส่งตรงให้กับโรงพยาบาล 188 แห่ง

นายอนุทินกล่าวว่า สิ่งของบริจาคที่ผู้ใจบุญนำมามอบให้อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าคนไทยไม่เคยทิ้งกันในยามยาก ทั้งยา เงิน อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องช่วยหายใจ หน้ากากอนามัย  Face Shield  หน้ากากผ้า อาหารสำเร็จรูป ซึ่งเป็นประโยชน์มากในสถานการณ์นี้ ขอขอบคุณในน้ำใจอันยิ่งใหญ่ ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่นำมามอบให้ คือความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทุ่มเทดูแลผู้ป่วย ทำให้มีความมั่นใจยิ่งขึ้น วันนี้เราสามารถดูแลคนของเราและผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี ป้องกันการกระจายเชื้อในวงกว้าง จำนวนผู้ป่วยหายกลับบ้านมากกว่าผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว นี่คือผลลัพธ์ที่ทุกคนให้ความร่วมมือ ขอให้คนไทยยังคงใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง อย่าเพิ่งวางใจสถานการณ์แม้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่จะคงที่ แสดงว่าประชาชนร่วมมือทำตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด แต่อยากให้สถานการณ์นิ่งอีกซักพัก ให้มั่นใจว่าจะไม่มีผู้ที่ออกไปแพร่เชื้อ เพื่อที่เราจะผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ด้วยความมั่นใจและการวางแผนที่ดี ไม่ให้เชื้อกลับมาแพร่กระจาย เพื่อให้ประเทศกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด


15 เมษายน 2563