“พาณิชย์” เตรียมลงพื้นที่ชายแดนใต้ แนะผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก FTA เพิ่มส่วนแบ่งในตลาดอาเซียนช่วงภาวะวิกฤติ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดกิจกรรม“สร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ตลาดการค้าอาเซียน” ระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคมนี้ ณ จังหวัดปัตตานี เตรียมลงพื้นที่พบผู้ประกอบการชายแดนใต้ แนะใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ เน้นสินค้าศักยภาพ ทั้งอาหารทะเลแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพาราและผ้าพื้นเมือง พร้อมจัดสัมมนาสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบและมาตรการทางการค้า การหาตลาดในอาเซียนโดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ รวมทั้งวิเคราะห์สินค้าในพื้นที่ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการตลาด

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งให้ข้อมูล คำแนะนำ และเตรียมความพร้อมเกษตรกร ผู้ประกอบการ SME ในภูมิภาค เรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ขยายตลาดสินค้าไทยสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะใน 18 ประเทศ ที่ไทยมีเอฟทีเอด้วย ซึ่งได้ลดหรือยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าส่วนใหญ่ของไทยแล้ว เพื่อติดอาวุธผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพในภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะตลาดอาเซียนที่มีความใกล้ชิดกับชายแดนใต้ของไทย ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เสริมว่า ระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม 2563 กรมฯ เตรียมลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อจัดกิจกรรม “สร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ตลาดการค้าอาเซียน” เนื่องจากเห็นถึงศักยภาพและความสำคัญของจังหวัดชายแดนใต้ ที่จะเป็นประตูการค้าสู่อาเซียน โดยจะลงพื้นที่พบผู้ประกอบการชายแดนใต้ พร้อมแนะการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ และในวันที่ 19 มีนาคม 2563 การจัดสัมมนาหัวข้อ “เรื่องง่ายๆ ที่ต้องรู้กับการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ” และ “สินค้า 4 จังหวัดชายแดนใต้ ติดปีกสู่ตลาดการค้าเสรี” ณ โรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี ให้ผู้ประกอบการ เกษตรกร สมาชิก MOC Biz Club และวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 100 คน  โดยเน้นสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าของคู่ค้าอาเซียน การหาตลาดในอาเซียนให้กับสินค้าในพื้นที่โดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ เช่น สินค้าประมงแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพารา ผ้าบาติก เป็นต้น รวมทั้งการวิเคราะห์สินค้าของผู้ประกอบการที่เข้าร่วม โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการตลาด

ทั้งนี้ จากการสำรวจสถิติสินค้าศักยภาพชายแดนใต้ พบว่า ในปี 2562 อาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็ง มีมูลค่าส่งออกไปตลาดโลกถึง 1,842 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดส่งออกสำคัญคือ ญี่ปุ่น มีมูลค่าการส่งออก 445.6 ล้านเหรียญสหรัฐ  รองลงมา ได้แก่ จีน สหรัฐฯ และอาเซียน มีมูลค่าการส่งออก 390 ล้านเหรียญสหรัฐ 275 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 176 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ที่ต้องเร่งใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอขยายตลาดสินค้าไทย และเพิ่มแต้มต่อทางการค้าให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน


กระทรวงพาณิชย์

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

16 มีนาคม 2563