ชป.คุมเข้มการบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามแผนฯ แม้น้ำกินน้ำใช้จะเพียงพอ แต่ต้องช่วยกันประหยัด

กรมชลประทาน ยังคงเข้มงวดการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้งที่วางไว้ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ก่อนสิ้นฤดูแล้งปลายเดือนเมษายนนี้ พร้อมวอนขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศว่า ปัจจุบัน(9 มี.ค. 63) มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกัน 38,505 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุเก็บกักรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 15,147 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 32 ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกัน 9,741 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 39 ของความจุเก็บกักรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 3,045 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน ผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งทั้งประเทศ ปัจจุบัน (9 มี.ค. 63) มีการใช้น้ำตามแผนฯไปแล้ว 11,926 ล้าน ลบ.ม.(แผนฯ 17,699 ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 67 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการใช้น้ำตามแผนฯไปแล้วประมาณ 3,255 ล้าน ลบ.ม.(แผนฯ 4,500 ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 72 ของแผนฯ

ปัจจุบันมีเขื่อนขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำใช้การได้น้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ ทั้งสิ้น 18 แห่ง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแม่มอก เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนมูลบน เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำแซะ เขื่อนลำนางรอง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนทับเสลา เขื่อนกระเสียว เขื่อนคลองสียัด เขื่อนบางพระ เขื่อนหนองปลาไหล และเขื่อนประแสร์

ส่วนแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/63 (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มี.ค. 63) มีการเพาะปลูกทั้งประเทศรวม 4.39 ล้านไร่ เกินแผนไปแล้วร้อยละ 55 เก็บเกี่ยวแล้ว 0.95 ล้านไร่ แยกเป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง 3.91 ล้านไร่ เกินแผนไปแล้วร้อยละ 69 เก็บเกี่ยวไปแล้ว 0.91 ล้านไร่ และพื้นที่ปลูกพืชไร่-พืชผักอีกประมาณ 0.48 ล้านไร่ หรือร้อยละ 92  ของแผนฯ เก็บเกี่ยวแล้ว 0.40 ล้านไร่ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาไม่มีแผนการเพาะปลูกพืชเนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนมีไม่เพียงพอที่จะสนับสนุน แต่จากการสำรวจพบว่ามีการเพาะปลูกพืชนอกแผนฯ ไปแล้วประมาณ 1.95 ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว 0.63 ล้านไร่ ส่วนใหญ่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ของตนเองในการเพาะปลูก

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่หลายแห่ง มีปริมาณน้ำลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน จึงต้องบริหารจัดการน้ำตามแผนจัดสรรน้ำที่ได้กำหนดไว้ร่วมกันกับกลุ่มผู้ใช้น้ำและกลุ่มเกษตรกรที่ใช้น้ำจากเขื่อนต่างๆอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะเน้นการส่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค น้ำเพื่อผลิตประปา และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด ด้านสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าตลอดตามแนวแม่น้ำสายหลักต่างๆ ขอให้ใช้น้ำตามแผนหรือข้อกำหนดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้งไปจนถึงต้นฤดูฝนนี้อย่างไม่ขาดแคลน


ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์